นายชำนาญ พรพิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM เปิดเผยว่า ปี 2567 ในส่วนของบริษัทย่อย บริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จํากัด (SPPM) มีทิศทางที่ดี ซึ่งจะมีการพัฒนาการกระจายแผงโซลาร์ให้ถึงมือผู้บริโภคให้มากขึ้น จึงได้ร่วมกับพันธมิตรตั้งศูนย์กระจายสินค้า 40 แห่งทั่วประเทศ ทำให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่ซื้อขายผ่านออนไลน์จะต้องเสียค่าขนส่งเพิ่ม โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโอกาสเข้าไปรับงานภาครัฐมากขึ้น ซึ่งจะมีงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งแผงโซลาร์ตามหน่วยงานราชการต่างๆ และจะใช้แผงที่มี มอก. เท่านั้น โดยทาง PPM คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ เนื่องจากเป็นแผงที่มี มอก. และเป็นบริษัทคนไทยที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งผลิตได้ถึง 250 เมกะวัตต์ ทำให้ในปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายโซลาร์เซลล์ไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้านบาท
“เรามีพันธมิตรให้ช่วยกระจายสินค้าแผงโซลาร์ 40 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์แล้วไปรับสินค้าจากจุดกระจายสินค้าที่มีหน้าร้าน ซึ่งจะเริ่มในไตรมาส 1/2567 นี้ ซึ่งเราคาดว่าในปีนี้จะมีการติดแผงโซลาร์เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากค่าไฟที่สูง และภาครัฐมีการอำนวยความสะดวกในการขออนุญาต” นายชำนาญ กล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของภาครัฐยังได้มีนโยบาย มาตรการการรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป (Net Metering) คือ ระบบหักลบกลบหน่วยอัตโนมัติจากไฟฟ้าที่ผลิตใช้เองจากโซลาร์เซลล์บนหลังคากับไฟฟ้าที่เราใช้จากการไฟฟ้า ซึ่งผู้ใช้ไฟฟ้าจะจ่ายค่าไฟฟ้าตามจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่หักลบแล้ว ที่เหลือสามารถขายเข้าระบบได้
สำหรับธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง จากบริษัทย่อย บริษัท พรีเมี่ยม เฟล็กซิเบิ้ล แพคเกจจิ้ง จํากัด (PFP) มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มสกินแคร์ และอาหาร
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายชำนาญ กล่าวว่า ปี 2567บริษัทวางแผนการเติบโต ตั้งเป้ายอดขาย โดยมองโปรดักต์ต่างๆ และการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยที่กดดันหรือมีกระทบรุนแรง เช่น เงินบาทอ่อน จะมีผลต่อต้นทุนและการดำเนินงานค่อนข้างมาก แต่บริษัทต้องมาบริหารจัดการปัจจัยเหล่านี้ให้ดี อีกทั้งการดำเนินธุรกิจบริษัทจะเน้นการสร้างผลกำไรที่ยั่งยืน ส่วนยอดขายอาจจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป และเชื่อว่าปี 2567จะเติบโตได้ดี เพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจในประเทศได้รับผลกระทบ และจากสถานการณ์โควิด-19
ขณะเดียวกัน หลังจากมีรัฐบาลใหม่ บริษัทมองว่าภาพธุรกิจจะชัดเจนมากขึ้น และคาดจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้ดีขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา ด้านโยบายรัฐที่เข้ามาส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศทำให้มีความสามารถด้านการแข่งขัน ดีขึ้น และเชื่ออุตสาหกรรมในประเทศจากจุดต่ำสุด และกลับเข้าสู่ภวะปกติในช่วงต่อจากนี้
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม