เด้งเพื่อลงต่อ

#ทันหุ้น-อากาศว่าร้อนอบอ้าวจนจะขาดใจตายแล้ว อุณหภูมิความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับร้อนระอุยิ่งกว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา โลกต้องเผชิญกับความกังวลว่าสงครามใหญ่ระหว่างอิหร่านและอิสราเอลกำลังระเบิดขึ้น หลังอิหร่านส่งโดรนและยิงขีปนาวุธมากกว่า 300 ลูกต่อลำ เข้าโจมตีอิสราเอล เมื่อ 12 เม.ย. การโจมตีครั้งนี้ประกอบไปด้วยโดรน 170 ลำ ขีปนาวุธร่อน (Cruise Missiles) อีก 30 ลูก และขีปนาวุธนำวิถี (Ballistic Missiles) อีก 110 ลูก เพื่อเป็นการตอบโต้จากการที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศพุ่งเป้าไปที่อาคารสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เม.ย. โดย คร่าชีวิตผู้คนไป 13 ราย รวมไปถึง พลจัตวา โมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี ผู้บังคับทหารอาวุโสในกองพันพิเศษคุดส์ของอิหร่าน

การตอบโต้ของอิหร่านต่ออิสราเอล ทำให้หลายฝ่ายหวาดผวาว่าอิสราเอลจะตอบโต้กลับ จนกระทั้งวันที่ 19 เม.ย. เกิดเหตุระเบิดในเมืองอิสฟาฮาน (เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิหร่าน) พร้อมกับระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านทำงาน เหตุการณ์นี้ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกเกิดความปั่นป่วน ตลาดหุ้นทั่วโลกพากันลงกระหน่ำ สวนทางกับการพุ่งขึ้นของน้ำมันและทองคำ กระนั้นหลังจากที่อิหร่านออกมาปฏิเสธว่าเหตุการณ์ระเบิดนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับอิสราเอล สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ เริ่มสงบ ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มฟื้นตัว ส่วนน้ำมันและทองคำปรับลดลงมาต่ำกว่าก่อนเกิดเหตุระเบิดในอิหร่าน

ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ดูเหมือนอยู่ในช่วงพักยก แม้จะไม่บานปลายแต่ความเงียบที่แสดงกันออกมา เพื่อรอวันปะทุแรงครั้งใหญ่ สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ จะยังคงถูกความกังวลปกคลุมไปอีกนาน นอกจากนั้นตลาดยังต้องมาเจอกับความเสี่ยงเงินเฟ้อฆ่าไม่ตาย เงินเฟ้อพุ่งย้อนกลับทำให้ Fed ลดดอกเบี้ยได้ยากมากขึ้นเป็นผลลบต่อกลุ่ม Information Technology และ Communication Service ซึ่งมีการไล่ปั่นราคารับความคาดหวังการลดดอกเบี้ยไปล่วงหน้าจน Valuation แพงกระฉูด ต้องถูกการ Take Profit หุ้นในกลุ่ม Magnificent 7 พาเหรดกันลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Nvidia จนดึงให้ S&P500 ลงหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา

มองว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้น แรงบีบจากเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ความแพงของ Valuation และความตึงเครียดภูมิศาสตร์ในตะวันออกกลางจะยังกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสเกิด Technical Rebound ได้จากการปรับประกาศผลประกอบการงวด 1Q/2024 ซึ่ง Consensus คาดหวังกำไรกันค่อนข้างต่ำ ทำให้มีโอกาสเกิด Positive Surprise ได้

ภายใต้สถานการณ์ข้างต้นจึงยังไม่ใช่เวลาที่ดีในการกลับเข้าไปในตราสารทุน (ตลาดหุ้นทั่วโลกตอนนี้ไม่น่าสนใจ) ขณะที่สินทรัพย์ทางเลือกอื่นเช่น น้ำมัน ทองคำ แม้จะแผ่วลงต่อเนื่องหลังสถานการณ์อิหร่าน-อิสราเอลไม่บายปลาย แต่ทั้งน้ำมัน ทองคำ ยังเป็นสินทรัพย์ที่จำเป็นต้องมีอยู่ในพอร์ตเพื่อป้องกันความเสี่ยงสงครามที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ (รู้แต่ว่าเสี่ยงเหลือเกิน) กลยุทธ์การลงทุนจึงควรต้องเพิ่มน้ำหนักในเงินสดมากขึ้น ปัจจุบันพอร์ตกองทุนรวมตามกลยุทธ์ของ Merchant Partner เพิ่มน้ำหนักเงินสดขึ้นเป็น 30% โดยให้เน้นไปที่กอง Money Market เลือก KKPMP (ดอกเบี้ย 1.85%) เป็นกองหลบร้อนในตอนนี้

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1