ช่องว่างนโยบายการคลังแคบลง หลังรัฐบาลใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต

#ทันหุ้น - ปลัดคลัง ระบุ การใช้เงิน 5 แสนล้านในโครงการ Digital wallet จะกระทบให้การใช้นโยบายการคลังด้านอื่นน้อยลง ขณะที่ยืนยันการใช้จ่ายเงินโครงการนี้ไม่ขัดกับกฎหมายวินัยการเงินการคลัง

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ เมื่อรัฐบาลใช้นโยบายการคลังผ่านการใช้เงินในโครงการ Digital wallet ในวงเงินที่สูงถึง 5 แสนล้านบาท จะต้องแลกกับการใช้เงินในเรื่องอื่นๆ ที่น้อยลง

ทั้งนี้ การออกแบบโครงการแจกเงินผ่าน Digital wallet ซึ่งต้องใช้เงินงบประมาณราว 5 แสนล้านบาท เป็นการออกแบบโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่ออกแบบเพื่อให้เป็นสวัสดิการ ดังนั้น การใส่เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ จะต้องมีขนาดใหญ่พอที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เห็นผลเร็วที่สุด คือ การกระตุ้นผ่านการบริโภคของประชาชน

“ถ้าเศรษฐกิจมีปัญหาลงลึก การจะดึงเศรษฐกิจกลับคืนมา ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล แต่ถ้าเราสามารถประคองเศรษฐกิจ จะเป็นการใช้เงินที่น้อยกว่า โดยใช้ผ่านโครงการดังกล่าว เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลต้องแลกกับการใช้เงินงบประมาณในเรื่องอื่นที่น้อยลง เนื่องจากเงินเรามีจำกัด” นายลวรณ กล่าว

ทั้งนี้ โครงการแจกเงินผ่าน Digital wallet สำหรับคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 8.4 แสนบาท ซึ่งต้องใช้งบประมาณราว 5 แสนล้านบาท จะมาจากแหล่งเงินสามแหล่งคือ 1 .งบประมาณของปีงบประมาณ 2567 จำนวน 1.75 แสนล้านบาท , 2.จากงบประมาณปี 2568 จำนวน 1.52 แสนล้านบาท และ 3.จากการใช้มาตรการกึ่งการคลัง ตามมาตรา 28 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง  1.72 แสนล้านบาท

การใช้จากงบประมาณปี 2567 นั้น จำเป็นต้องออก พ.ร.บ.โอนงบประมาณที่เหลือจ่ายในปีงบประมาณ 2567 เพื่อนำเงินที่เหลือจ่ายดังกล่าวมาใช้สำหรับโครงการนี้  ส่วนการใช้แหล่งเงินผ่านมาตรา 28 นั้น จะต้องรอหลัง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้

โดยการออกแบบระบบของโครงการนี้ จะกำหนดให้การใช้จ่ายเงิน digital wallet ในรอบแรก จะต้องจ่ายผ่านร้านค้าขนาดเล็กภายในอำเภอที่ผู้มีสิทธิ์เท่านั้น และเมื่อร้านค้าขนาดเล็กได้รับเงินdigitalในรอบแรกแล้ว จะยังไม่สามารถ Cash out ได้ จนร้านค้าขนาดเล็ก จะนำ digital wallet ที่ได้รับไปใช้จ่ายในรอบที่สองนั้น เป็นการ ล็อกว่า จะต้องเกิด Multiplier effect ต่อระบบเศรษฐกิจอย่างน้อย 1 รอบ และการที่กำหนดว่า ร้านค้าขนาดเล็กที่ได้รับเงิน digital ในรอบแรก ยังไม่สามารถขึ้นเป็นเงินสดได้นั้น ยังช่วยลดแรงจูงใจในการโกงด้วย เช่น ร้านค้าร่วมมือกับคนใช้เงินดิจิตอล โดยซื้อเงินดิจิตอลแบบมีส่วนลด เช่น จากเงิน digital 1 หมื่นบาท รับแลกเหลือ 7 พันบาท เป็นต้น

นายลวรณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ( DGA) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม( DES) กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา Supper App สำหรับโครงการนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการออกแบบระบบที่ทำให้ระบบฉลาดขึ้น ในการตรวจสอบความผิดปกติ เช่น ร้านขายสินค้าดีมาก แต่สต็อกไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งการออกแบบระบบได้ร่วมมือกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับนิยามของร้านค้าขนาดเล็กของโครงการนี้ เบื้องต้นให้คำจำกัดความตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อลงมา ซึ่งรวมถึงร้านเซเว่นอีเลฟเว่นด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้จ่ายเงิน digital ซึ่งต้องมองทุกอย่างด้วยความจริงโดยไม่มีอคติ

โครงการ digital Wallet ไม่ใช่ เงินโทเค่น ดังนั้น จึงไม่ขัดกับ พ.ร.บ.เงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจาก ในวันที่เริ่มของการเริ่มโครงการ มีเงินจำนวนนั้นจริงๆ

ส่วนก่อนหน้านี้โฆษกรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ ได้กล่าวถึงข้อครหาว่าโครงนี้จะเอื้อต่อเจ้าสัว หรือร้าน เซเว่น นั้น ว่า หากพิจารณาจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ จะพบว่า ร้านเซเว่นทั้งประเทศมีจำนวน 14,500 สาขา และในจำนวนนี้ ราว 7 พันสาขา เป็นร้านประเภท เฟรนชาย เมื่อเทียบจากข้อมูลร้านค้าขนาดเล็กที่เคยลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนพบว่า มีร้านค้าขนาดเล็กรวมกันถึง 1.2 ล้านร้านค้า  ซึ่งกระทรวงการคลัง คาดว่า ร้านค้าขนาดเล็กเหล่านี้น่าจะมาลงทะเบียนในโครงการ Digital wallet ของรัฐบาลด้วย

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1