ทันหุ้น - PK แก้เกมหลังออเดอร์งานลด เดินหน้าเข้าพบลูกค้าเพื่อให้คำปรึกษาด้านการลงทุน หวังดันยอดขายปลายปีฟื้นตัว เผยงานในมือ กว่า 2.2 พันล้านบาท คาดทยอยรับรู้ทั้งหมดในปีนี้ หวังครึ่งปีหลังสถานการณ์ดีขึ้น โดยรายได้รวมปี 2561 ยังคงรักษษระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา  นายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) หรือ PK เปิดเผยถึงแผนในการแก้ไขปัญหาคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ทั้งในปีระเทศ และต่างประเทศที่ลดลงว่า บริษัทได้มีการพิจารณาหามาตรการช่วงเหลือคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นได้มีการเดินทางเข้าพบลูกค้าในต่างประเทศเพื่อให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การปรับลดขนาดของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นการช่วยให้ทางลูกค้าประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะช่วยสร้างยอดขายให้กับบริษัทได้มากขึ้นอีกด้วย แต่ต้องยอมรับว่าการปรับลดขนาดของผลิตภัณฑ์อาจมีผลกดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้น ส่วนลูกค้าภายในประเทศนั้น แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาตัวเลขการส่งออกจะเพิ่มขึ้น แต่ด้วยปัญหาทางการเมืองและสงครามทางการค้า ตลอดจนสภาวะเศรษฐกิจในต่างประเทศที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบและมีการชะลอการลงทุนลง แต่อย่างไรก็ดีมองว่าจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้นเนื่องจากตลาดการส่งออกของไทยค่อนข้างใหญ่และต่างประเทศยังคงมีความต้องการผลผลิตจากไทยอีกมากทำให้ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วผู้ประกอบการต้องลงทุนขยายการผลิต ส่งผลให้คาดว่าสถานการณ์ยอดขายในช่วงปลายปี 2561 จะเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ทั้งนี้คำสั่งซื้อที่ลดลงเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในตลาดภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท ในช่วงที่ผ่านมาค่าเงินภูมิภาคเอเชียปรับตัวอ่อนค่าลงค่อนข้างมาก ทำให้ลูกค้ามีความระมัดระวังในการลงทุน “ต้องยอมรับว่ายอดขายในช่วงครึ่งแรกปี 2561 แม้รายได้รวมอยู่ที่ 2,076.49 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 40.16 ล้านบาท แต่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะของอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างคลุมเครือในระยะนี้และจากประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน กดดันให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นตลาดหลักเราอ่อนค่า ผู้ประกอบการหลายรายมีความลังเลและชะลอการลงทุนขยายธุรกิจลง อย่างไรก็ดีเราเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้มองหามาตรการเข้าช่วยเหลือลูกค้าและให้คำปรึกษาการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเมินว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2561 จะมีการฟื้นตัวที่ดีกว่าในช่วงครึ่งแรกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปลายปีที่คาดว่าปัญหาต่างๆจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น”นายแสงชัย กล่าว นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทได้มีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ เพื่อให้สอดคล้องต่อภาวะอุตสาหกรรม โดยหันมาให้ความสนใจผู้ประกอบการที่มีขนาดธุรกิจกลาง-เล็กมากขึ้น แม้ว่ามูลค่าการสั่งซื้อสินค้าจะไม่สูงมากเหมือนเช่นผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่มองว่าจะช่วยสร้างการเติบโตให้ยอดขายได้อีกช่องทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าจากภาวะอุตสาหกรรมที่คลุมเครือและประเด็นส่งครามทางการค้าทำให้ยอดขายในปีนี้ชะลอตัว ส่งผลให้การเติบโตของรายได้รวมปี 2561 อาจใกล้เคียงหรือลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,796.11 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีงานในมือรอส่งมอบ (Backlog) อยู่อีกกว่า 2.2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบให้ลูกค้าและรับรู้เค้ามาเป็นรายได้ทั้งหมดในปี 2561 นี้ ส่วนความคืบหน้าการลงทุนขยายโรงงานผลิตในประเทศอินโดนีเซีย เบื้องต้นคาดว่าอาจมีการพิจารณาเลื่อนการลงทุนออกไปก่อน จากเดิมที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2562 และแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2563 เป็นต้นไป ประเมินใช้เงินลงทุน 200-300 ล้านบาท อนึ่ง ลักษณะการดำเนินธุรกิจหลักของ PK คือ เป็นบริษัทวิศวกรรมสร้างเครื่องจักรทำความเย็น และเครื่องจักรที่ใช้ในการแปรรูปและการผลิตอาหารประเภทต่างๆ เช่น เครื่องทำน้ำแข็งหลอด ห้องเย็น สร้างเครื่องจักรและโรงงานสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นของเหลว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรซ์ นมยูเอชที เครื่องดื่มชูกำลัง เบียร์ น้ำผลไม้ น้ำดื่มบรรจุขวด รวมถึงโรงงานยา และเคมีภัณฑ์ และสร้างโรงงานแปรรูปอาหาร เช่น โรงงานแปรรูปปลาทูน่ากระป๋อง และโรงงานกุ้งครบวงจร และสร้างเครื่องจักรแช่แข็งแบบต่อเนื่อง เครื่องคัดขนาดปลา กุ้ง ผลไม้ เครื่องล้างถาดสำหรับซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยบริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยการให้บริการอย่างครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา งานออกแบบ งานวิศวกรรม จนถึงงานสร้าง และติดตั้ง และยังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้จดสิทธิบัติแล้วเป็นจำนวนมาก