ทันหุ้น – HTECH รุกเจาะตลาดใหม่ในเอเชีย ซุ่มเจรจาตั้งตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ หวังโกยออเดอร์ใหม่ๆ เพิ่ม ดันสัดส่วนยอดขายต่างประเทศเพิ่มเป็น 40% ด้านการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ส่วนงานคาร์ไบด์ 6 เครื่อง ปัจจุบัน COD เรียบร้อยแล้วและจะเดินเรื่องเต็มประสิทธิ์ภาพไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานจากนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายตลาดใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากปัจจัยภาวะทางเศรษฐกิจที่ยังคงซึมตัวทั้งในประเทศที่ยังไม่มีความแน่นอนทางการเมือง และโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่ยังมีแรงกดดันจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่มีผลทำให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนลง *สยายปีกต่างประเทศ ทั้งนี้ บริษัทยังมองเห็นโอกาสรับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ใหม่ๆ จากกลุ่มลูกค้ารายอย่างต่อเนื่อง ทั้งอุตสาหกรรมกลุ่มเกี่ยวเนื่องชิ้นส่วนยานยนต์ และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาการลงทุนในแต่งตัวตัวแทนจำหน่ายหรือจัดตั้งบริษัทย่อยที่เป็นตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี การลงทุนดังกล่าวจะเป็นการพิจารณาตามความเหมาะสมของสภาวะเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการตั้งเข้าบริษัทย่อยที่เป็นตัวแทนจำหน่ายแล้วใน 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมามีแนวโน้มการเติบโตของยอดขายที่ดี ทั้งนี้ บริษัทคาดหวังว่าจากปัจจัยดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้โครงสร้างยอดขายในปี 2562 กว่า 40% จะเป็นยอดขายจากต่างประเทศ ส่วนอีก 60% มาจากยอดขายในประเทศ ที่เป็นตลาดขายหลัก "ที่ผ่านมาต้องยอดรับว่าภาวะตลาดไม่เป็นใจเท่าไหร่ในประเทศเองก็ไม่มีความแน่นอนทางการเมือง ต่างประเทศก็ยังได้รับแรงกดดันจากาสงครามการค้า ทำให้ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการยงไม่กล้าตัดสินใจที่จะลงทุน ทำให้เราหันกลับมาปรับแผนเชิงรุกใหม่เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง โดยจะเจาะตลาดใหม่ต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงหันไปออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็น High technology มากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนให้การเติบโตของผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือให้ได้มากที่สุด" นายพีท กล่าว *เร่งอัพกำลังผลิต ส่วนการลงทุนในปี 2562 ยังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/2562 บริษัทได้ทยอยติดตั้งเครื่องจักรในส่วนงานคาร์ไบด์ (Carbide) จำนวน 6 ชุด และได้มีการทดสอบสายการผลิต (Test run) ไปบ้างแล้ว คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2562 นี้เป็นต้นไป ส่งผลให้จากนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นรองรับ ออเดอร์ จากลูกค้าได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดซื้อเครื่อง High-end และเครื่องจักรที่สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมอีกประมาณ 10 ชุด คาดว่าภายในช่วงกลางปี 2562 จะได้รับข้อสรุป อย่างไรก็ดีหากว่าทุกอย่างดำเนินไปตามแผนการที่วางไว้ก็คาดว่าจะทำให้ในปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 10-15% จากปีก่อน สำหรับมูลค่าการลงทุนถูกรวมอยู่ในงบลงตามแผนเพิ่มกำลังการผลิตที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้าที่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท แล้ว สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2562 เบื้องต้นมองว่าจะทรงตัวจากไตรมาส 1/2562 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่เป็นใจนัก อาจต้องจับตารอดูทิศทางในช่วงครึ่งหลังปีนี้ต่อว่าภายหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ไปต่อได้หรือไม่ และปัญหาสงครามการค้าจะผ่อนคลายได้หรือไม่