สำนักข่าว"ทันหุ้น"รายงานว่า บล.เคทีบี(ประเทศไทย) คาดการณ์ว่าหาก ธปท.ผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือ LTV สำหรับบ้านหลังที่ 2 ซึ่งจะเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะหุ้น ORI และ ANAN ที่เน้นคอนโดมิเนียมจะได้รับประโยชน์มากสุด พร้อมเลือกหุ้น SPALI เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม เหตุกำไรเติบโตดี
บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังผู้บริหารสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือสศค. คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.จะผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV สำหรับบ้านหลังที่ 2 หรือสัญญาที่ 2 เร็วๆ นี้ หลังจากที่คลังได้หารือกับธปท.เรียบร้อยแล้ว ทำให้ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ฯ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เน้นคอนโด ได้แก่หุ้นบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI และหุ้นบริษัท บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN หาก ธปท.มีการผ่อนเกณฑ์ LTV บ้านหลังที่ 2 จะช่วยคลายความกดดันกระตุ้นยอดขายได้ดีขึ้น
ฝ่ายวิจัยบล.เคทีบีฯ ประเมินว่าสัดส่วนการซื้อบ้านหลังที่ 2 อยู่ที่ประมาณ 10% จากยอดขายรวม และส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมากกว่าคิดเป็นราว 60-65% ของยอดขายบ้านหลังที่ 2 รวมถึงจะเป็น upside ต่อประมาณการกำไรปี 2563 ของฝ่ายวิจัยได้ ซึ่งหากพิจารณาด้านราคาหุ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.2561 ที่มีข่าวว่า ธปท.จะมีการประกาศใช้เกณฑ์ LTV พบว่าราคาหุ้นผู้ประกอบการคอนโดมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ได้แก่ ORI ลดลง 59%, LPN ลดลง 56% และ ANAN ลดลง 51%
ขณะที่หุ้นกลุ่ม property อื่นมีการปรับตัวลดลงมากเช่นกัน PSH ลดลง 31%, QH ลดลง 25% และ SPALI ลดลง 25% ดังนั้น มองว่าหากมีการผ่อนเกณฑ์ LTV จะเป็นบวกต่อผู้ประกอบการคอนโดมากกว่า โดยคาดว่าราคาหุ้น ORI, ANAN จะมีการปรับขึ้นมากสุด ส่วน LPN ยังมองมีความเสี่ยงจากผลการดำเนินงานปี 2563 ที่ยังชะลอตัวจาก backlog ที่ต่ำมาก
โดยให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "Neutral" หุ้น top pick ได้แก่ SPALI แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 20 บาทต่อหุ้น จากแนวโน้มกำไรปี 2563 ที่จะเติบโตได้ดีกว่ากลุ่ม และคาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐมากสุด และหุ้น ORI แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 8.50 บาทต่อหุ้น จาก Valuation ที่ถูกสุดในกลุ่ม โดยพี/อี เรโชปี 2563 ที่ 6.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 7.1 เท่า และคาดว่าจะได้ผลบวกมากสุดหาก ธปท.มีการผ่อนเกณฑ์ LTV สำหรับ ANAN แนะนำ ถือ ให้ราคาเป้าหมายที่ 3.10 บาท โดยคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นระยะสั้นจากข่าวนี้
ราคาหุ้น ORI ช่วงเช้า เคลื่อนไหวอยู่ที่ 7.30 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 2.82% มีมูลค่าการซื้อขาย 19.29 ล้านบาท
ส่วนหุ้น ANAN เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2.52 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 1.61% มีมูลค่าการซื้อขาย 3.12 ล้านบาท
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม