ตลาดหุ้นไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1555-1560 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ของอิหร่าน ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกแถลงการณ์ว่า จะไม่ส่งกำลังทหารตอบโต้การโจมตีของอิหร่าน จึงทำให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1580 จุด และมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1600 จุด

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ หุ้น MC หรือ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเครื่องแต่งกายและไลฟ์สไตล์ ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัท และเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น โดยมุ่งเน้นการเป็นผู้บริหารตราสินค้า บริหารการขายและการตลาด การออกแบบ จัดหาผลิตภัณฑ์ บริหารคลังสินค้าและการกระจายสินค้า

ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2563 (ปิดงบปีวันที่ 30 มิถุนายน) กำไรสุทธิ 64 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.08 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 94 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.12 บาท

ส่วนผลการดำเนินงานปี 2562 มีรายได้รวม 3,737 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 306 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.38 บาท กำไรลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61 ที่มีรายได้รวม 2,014 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.44 บาท

นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันรายได้และกำไรสุทธิในงวดปี 65 ให้กลับมาเติบโตเหมือนกับปี 59 ซึ่งถือเป็นปีที่ผลประกอบการเติบโตสูงที่สุด โดยมีรายได้อยู่ที่ 4,485.42 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 842.86 ล้านบาท

ขณะเดียวกันงวดปี 62/63 (ก.ค.62-มิ.ย.63) บริษัทคาดว่ารายได้จะกลับมาเติบโตในระดับ 8-10% จากปีก่อน โดยจะมีสัดส่วนรายได้จากออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 20-30% จากเดิมที่อยู่ที่ 10% ส่วนที่เหลือเป็นการขายผ่านช่องทางออฟไลน์

ปัจจัยที่จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้นั้นจะมาจากการปรับพื้นฐานของซัพพลายเชนใหม่ โดยจะกลับมาดูเรื่องของลูกค้า แบรนด์ และสินค้า รวมถึงช่องทางการเข้าถึงสินค้าให้ชัดเจนมากขึ้น โดยบริษัทวางกรอบการดำเนินงานในช่วง 3 ปี (63-65) มุ่งสร้าง New S-Curve ด้วยการเชื่อมต่อ Platform offline กับ online เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงและความสะดวกของลูกค้าให้มากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ B O S S ( Buy Online Ship at Shop)

บริษัทวางงบลงทุนสำหรับงวดปีนี้ไว้ที่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้พัฒนาแพลตฟอร์มในการเชื่อมต่อ offline กับ online เข้าด้วยกัน รวมทั้งใช้ในการปรับโฉมร้านค้าให้ดูทันสมัยมากขึ้น และปรับรูปแบบการนำเสนอสินค้า เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้ามากขึ้น

ส่วนตลาดต่างประเทศในช่วง 3 ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3% ของรายได้รวม โดยจะเน้นขยายตลาดในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในต่างประเทศที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เพื่อแลกเปลี่ยนช่องทางการขายระหว่างกัน หรือการนำสินค้าของบริษัทไปวางจำหน่ายในสาขาของพันธมิตร และพันธมิตรก็สามารถนำสินค้ามาวางจำหน่ายในสาขาของบริษัทในประเทศไทย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงต้นปีหน้า

MC มีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น 4.73 บาท ในขณะที่ราคาหุ้นซื้อกันที่ระดับ Price/Book Value ที่ 1.70 เท่า และ P/E Ratio ที่ระดับ 23 เท่า และมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 7.75 บาท โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 8.40 บาท และมีราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 7.20 บาท

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 7.75 ขึ้นไป หลังจากปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 5.80 ในขณะที่โครงสร้างของการปรับลดลงในระยะยาวมีจุดสูงสุดที่ 23.80 ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงในระยะยาวที่ 8.30 ขึ้นไป เพื่อขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านที่ 9.60-9.90 ตามสัดส่วนของการฟื้นตัวในระยะยาว

สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Teerasak Trendtalk