ทันหุ้น –กทม.เร่ง BTS เดินรถสายสีเขียวส่วนต่อขยายถึงสถานีกรมทหารราบที่ 11 เมษายนนี้ ด้าน BTS รับลูกคาดทดลองเดินรถมีนาคมนี้ ลั่นไม่หวั่น CPกลับเข้าสนามประมูลโครงการอู่ตะเภา มั่นใจเสนอผลตอบแทนภาครัฐเหมาะสม แย้มข่าวดีรอครม.เคาะอายุสัมปทานสายสีเขียว

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครฯ กล่าวคาดการณ์ว่า ทางกรุงเทพมหานครฯ และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSจะสามารถเปิดให้บริการการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้ก่อนกำหนดภายในเดือนธันวาคม 2563 เนื่องจากได้มอบนโยบายให้ทาง BTS เปิดให้บริการเป็นช่วงๆ โดยไม่ต้องรอให้เสร็จตลอดสาย โดยภายในเดือนเมษายน 2563 ทาง BTSจะขยายการให้บริการเพิ่มอีก 3 สถานี ได้แก่ สถานีกรมป่าไม้, สถานีบางบัว, และสถานีกรมทหารราบที่ 11

ขณะที่ส่วนต่อขยายอีก 8 สถานี ตั้งแต่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ สถานีพหลโยธิน 59 สถานีสายหยุด สถานีสะพานใหม่ สถานี รพ.ภูมิพลอดุลยเดช สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ สถานีแยก คปอ. และสถานีคูคต จะทยอยเปิดให้บริการงานเดินรถในลำดับต่อไป

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงสร้าง, ระบบ, และขบวนรถไฟฟ้ามีความพร้อมแล้ว  อยู่ระหว่างประสานงานกับทางการไฟฟ้านครหลวงพิจารณาหาแหล่งจ่ายไฟเข้าสู่ระบบชั่วคราว เนื่องจากการก่อสร้างสถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าที่คูคตยังไม่แล้วเสร็จ

“หลังจากได้รับนโยบายมาทางบริษัทอยู่ระหว่างประสานงานกับทางการไฟฟ้า หาแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น ทั้งนี้หากสามารถหาแหล่งจ่ายไฟได้เราก็พร้อมที่จะเริ่มทดสอบการเดินรถ เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้”

มั่นใจเสนอผลตอบแทนเหมาะสม

กรณีที่ศาลปกครองสูงสุด พิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้กองทัพเรือรับซองของบริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตรไว้พิจารณาประมูลสนามบินอู่ตะเภา นั้นนายสุรพงษ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มกลุ่มกิจการร่วมค้า BBSซึ่งประกอบด้วย บริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA (ถือหุ้น 45%), BTS (ถือหุ้น 35%) และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC (ถือหุ้น20%) ยังคงมั่นใจว่าทางกลุ่มฯ เสนอผลตอบแทนให้ภาครัฐในสัดส่วนที่เหมาะสม ประกอบกับ นาริตะ อินเตอร์เนชันแนล แอร์พอร์ต คอร์เปอเรชั่น (NAA) ผู้บริหารท่าอากาศยานนาริตะ ก็ถือว่าเป็นผู้บริหารสนามบินที่มีศักยภาพสูงอันดับต้นของโลก

“ถือว่าเป็นการประมูลยังคงดำเนินการต่อไป เราก็รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการ แต่โดย ณ ปัจจุบันเราก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเราเสนอผลตอบแทนให้ทางรัฐบาลในระดับที่เหมาะสม ส่วนพันธมิตรของเราก็เป็นผู้บริหารสนามบินที่มีศักยภาพอันดับต้นของโลก ก็ถือว่าเรามีความพร้อมที่จะดำเนินโครงการได้อย่างมีศักยภาพ”

รอครม.เคาะต่อสัมปทานBTS

สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาขยายสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น แหล่งข่าวในกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยและ กรุงเทพมหานครฯ เสนอให้ขยายระยะเวลาสัมปทานให้บีทีเอสจากปัจจุบันที่จะสิ้นสุดวันที่ 4 ธันวาคม 2572 ออกไปอีก 30 ปี รวมเป็น 40 ปี สิ้นสุดในปี 2602 โดยเก็บค่าโดยสารตามโครงสร้างใหม่ เก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียว เริ่มต้น 15 บาท สูงสุด 65 บาทตลอดสายโดยจะอนุญาติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารทุก 2 ปี ตามดัชนีผู้บริโภค (CPI)แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรี ตามขั้นตอน

ทันทีที่คณะรัฐมนตรีมีมติลงทาง ทางกรุงเทพมหานครฯ กับ BTSจะร่วมทุนกันแบบ PPP net cost ระยะเวลา 30 ปี โดยBTSจะร่วมลงทุนงานระบบกว่า 20,000 ล้านบาท (รับภาระหนี้แทน) งานโยธาส่วนต่อขยาย 2 ช่วง วงเงิน 60,000 ล้านบาท,ภาระดอกเบี้ย 10,000 ล้านบาท, ภาระการขาดทุนจากการดำเนินการงานส่วนต่อขยาย 10 ปี วงเงิน 21,133 ล้านบาท เพื่อแลกกับการขยายสัญญาสัมปทานเส้นทางหลักที่ยังเหลือ 10 ปี โดยได้รับการขยายสัญญาออกไปอีก 30 ปี นับจากสัญญาสัมปทานเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 4 ธันวาคม 2572

สำหรับส่วนต่อขยายทั้งช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง, ตากสิน-บางหว้า, ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งปัจจุบันทางกรุงเทพมหานครฯ ทำสัญญาจ้างBTS เดินรถจะสิ้นสุดพร้อมกับสัมปทานเดิม จากนั้นจะนำทั้งสายทางหลักและส่วนต่อขยายมารวมเป็นสัมปทานเดียวกัน และเริ่มต้นสัมปทานใหม่นับหนึ่งวันที่ 5 ธันวาคม 2572 ถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2602