อยากให้ตลาดขึ้น ขึ้น ขึ้น ไม่มีใครอยากให้ตลาดลง ลง ลง จริงมั๊ย

ตลาดหุ้นบ้านเรายังมีการแกว่งตัวตามปัจจัยกระทบจากภายนอกที่มีเข้ามา  เป็นทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ปัจจัยภายนอกเราคงไปแก้ไขอะไรไม่ได้  คงเพียงแต่เฝ้าระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นบ้านเรามากน้อยแค่ไหน  สำหรับเรื่องของปัจจัยผลกระทบภายในประเทศของเราเองตอนนี้ก็ต้องเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดเช่นกัน  ไม่ว่าเรื่องของการส่งออกที่ยังถือว่าเป็นปัจจัยถ่วงเศรษฐกิจที่สำคัญ  สถานการณ์ล่าสุดยังดูเหนื่อยต่อไปในปีนี้  แต่ก็ยังคาดหวังในส่วนของรัฐบาลนี้ที่ระดมสรรพกำลังทั้งความคิดเครื่องไม้เครื่องมือที่มีอยู่ในการช่วยเหลือภาคการส่งออกให้ฟื้นคืนกลับให้ได้เร็วที่สุด

สิ่งสำคัญที่นักลงทุนทั่วไปจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนในช่วงเวลานี้  ซึ่งการลงทุนที่ดีมีให้เราเลือกหลากหลายรูปแบบ  แต่สิ่งสำคัญการลงทุนของเรานั้นจะต้องมองถึงการลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด   หากเป็นการลงทุนระยะยาวคงต้องโฟกัสไปที่หุ้นขนาดใหญ่ที่มั่นคงเน้นผลตอบแทนที่แน่นอนไม่หวือหวามีปันผลสม่ำเสมอ  หรือการลงทุนที่เน้นในหุ้นขนาดกลางและเล็ก  ที่มีผลตอบแทนสูงก็สามารถเลือกลงทุนได้เหมือนกัน  แต่ทั้งหมดนี้ต้องใช้พื้นฐานที่แท้จริงเป็นตัวตัดสินใจในการคัดเลือกหุ้นบนเหตุและผลที่เป็นจริงไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีแล้ว   และที่สำคัญจะไม่สนใจราคาที่จะขยับขึ้นหรือลงมากน้อยแค่ไหนตราบที่พื้นฐานของหุ้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับ  ช่วงนี้คงต้องเฝ้าจับตาดูกันที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62  ที่จะเริ่มทยอยประกาศกันออกมาแล้ว  โดยกลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มแรกที่มีการประกาศออกมาก่อน  ซึ่งจากที่เห็นนักวิเคราะห์มองกันว่า ผลประกอบการกลุ่มแบงก์ยังน่าเป็นห่วง  จากภาวะโดยรวมของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว  หนี้เสียกลับมาเป็นปัญหาหลักกดดันผลการดำเนิน  แม้จะมีการบันทึกรายการพิเศษจากการปรับโครงสร้างรายได้ หรือ  การขายเงินลงทุนเข้ามาก็ตาม ซึ่งเป็นการรับรู้เพียงครั้งเดียว  ไม่ได้เกิดจากธุรกิจหลัก

อย่างไรก็ตาม  ราคาของหุ้นกลุ่มแบงก์ก็ได้สะท้อนถึงปัจจัยลบดังกล่าวไปมากแล้ว  รวมถึงการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติที่ถือหุ้นแบงก์อยู่เยอะน่าจะไม่มากเหมือนก่อนหน้านี้    เพราะฉะนั้นหุ้นกลุ่มนี้ก็ไม่น่าจะต้องกังวลอะไรกลับยิ่งดูมีความน่าสนใจยิ่งขึ้นมากกว่า   เพราะตอนนี้ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ถือว่ามีราคาที่ต่ำกว่าพื้นฐานที่สามารถเติบโตได้ในอนาคตค่อนข้างมากหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้  แถมยังมีปันผลตอบแทนที่ดีด้วย

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ตลาดกำลังปรับฐานอยู่ในขณะนี้นั้นเริ่มมีหุ้นที่มีขนาดกลางและเล็กที่มีกระแสข่าวเข้ามาให้นักลงทุนที่สนใจการลงทุนในรูปแบบของการเก็งกำไรมากขึ้น   อีกทั้งบรรดานักวิเคราะห์ที่มองในเชิงเทคนิคก็มองหุ้นลักษณะนี้ว่าเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น  ซึ่งนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในการลงทุนแบบเก็งกำไร  เข้าออกได้เร็วก็สามารถเลือกหาลงทุนได้เหมือนกัน  แต่หากนักลงทุนมือใหม่หรือที่ขาดความชำนาญในลักษณะดังกล่าว  แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงดีกว่าเพราะอาจจะสร้างความเสียหายได้มากกว่าที่จะกำไร

ส่วนนักลงทุนที่สนใจอยากจะลงทุนในตลาดหุ้นยามนี้หากไม่ได้เน้นหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูงก็สามารถเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีแข็งแกร่ง  มีอนาคตเติบโตได้ดี และทำการบ้านในหุ้นเป้าหมายอย่างรู้จริง  ประเมินมูลค่าราคาหุ้นที่แท้จริงในอนาคตให้ได้  ก็สามารถเข้าลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนคืนกลับที่ดีได้ด้วยเช่นกันครับ  อย่างไรก็ตามก็ยังคงต้องเฝ้าติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆที่มีอยู่  จากทั้งภายนอกประเทศและภายในประเทศของเราเอง  ตลอดจนพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดกับตลาดทุนหรือหุ้นที่เราสนใจอย่างไรมากน้อยแค่ไหน  จะทำให้การวางแผนการลงทุนของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง  และที่สำคัญนักลงทุนทุกคนต้องอยากให้ตลาดมีการปรับตัวขึ้น ขึ้น ขึ้น  สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับตัวเอง  คงไม่มีใครอยากให้ตลาดลง ลง ลง  เป็นแน่ โชคดีครับ