> SET > DTAC

14 มกราคม 2020 เวลา 15:29 น.

บล.กสิกรไทย มองประมูล 5G แข่งขันไม่รุนแรง...จ้องคลื่น 2600 MHz


สำนักข่าว"ทันหุ้น" บล.กสิกรไทย ประเมินการประมูลคลื่น 5G จะแข่งขันไม่รุนแรง เพราะผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย ต้องการที่จะรักษาโครงสร้างตลาดที่เอื้อประโยชน์แก่ตนเอง รวมถึงมีบทเรียนจากประมูลคลื่น 4G ในอดีตที่ผ่านมา โดยคาดว่าทั้ง 3 รายต้องการเข้าประมูลคลื่น 2600 MHz   


บล.กสิกรไทย คาดการณ์การประมูลคลื่น 5G ที่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ.2563 นี้ มีความเป็นไปได้มากที่ผู้ประกอบการ 3 รายจะให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน เพราะมองว่าเป็นปกติที่ผู้ประกอบการรายใหญ่จะรักษาโครงสร้างตลาดที่เอื้อประโยชน์แก่ตน, ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างมีบทเรียนที่เจ็บปวดจากการประมูลคลื่น 4G ในชาวงปลายปี 2558 ที่ราคาประมูลปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเทคโนดลยี 5G ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นด้วยกันทั่วโลก ที่ยอดสมาชิกและศักยภาพในการทำรายได้ยังไม่ชัดเจน และต่างจาก 4G โดยสิ้นเชิง 


โดยสมมุติฐานดังกล่าวที่มองจะอิงว่าจะมีผู้ชนะประมูลใบอนุญาตคลื่น 5G ในกลุ่มผู้ประกอบการมือถือรายใหญ่ 3 รายเท่านั้น และอิงกับผู้ประกอบการทั้ง 3 รายจะได้ bandwidth คลื่น 5G ในปริมาณที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด โดยแต่ละแห่งต้องการเข้าประมูลคลื่น 2600 MHz


**แนะซื้อ TRUE แต่ถอนจากเป็นหุ้นเด่น


ฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทย แนะนำซื้อหุ้น TRUE คาดว่ากำไรธุรกิจหลักงวดไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 77 ล้านบาท  ซึ่งดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะเดียวกันได้ปรับประมาณการกำไรธุรกิจหลักปี 2562-2564 ลง 41%, 15% และ 25% ตามลำดับ สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่าย D&A, ต้นทุนการเงิน และค่าใช้จ่ายภาษีที่สูงขึ้น พร้อมกับปรับราคาพื้นฐานลงเปแน 6.58 บาทต่อหุ้น  จากเดิมที่ 7.89 บาทต่อหุ้น แต่ได้มีการถอนออกจากหุ้นเด่น เพราะการฟื้นตัวของกำไรธุรกิจหลักมีภาพที่น่าตื่นเต้นน้อยลง, สูญเสียทิศทางการเติบโตด้านรายได้ท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่ผ่อนคลายลงในตลาดมือถือ และสถานะทางการเงินที่ต่ำกว่าผู้เล่นอื่นในวัฏจักร CAPEX สำหรับ 5G ที่จะมาถึง 


**แนะซื้อ DTAC เล็งปรับเพิ่มมูลค่า


ฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทย แนะนำซื้อหุ้น DTAC เช่นกัน คาดว่ากำไรธุรกิจหลักในไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ประมาณการกำไรธุรกิจหลักทรัพย์ในปี 2562-2564 ปรับลดลง 12.5%, 12.5% และ 8.9% ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากกาประเมินค่าใช้จ่ายภาษีที่ต่ำเกินไป พร้อมกับปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 66.07 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 68.73 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตามมองว่าหุ้น DTAC อาจได้รับการปรับเพิ่มมูลค่า(re-rating) ขึ้นจากการฟื้นตัวของการเติบโตด้านรายได้ที่เร่งตัวขึ้น, upside ต่อ EBITDA margin จากการให้บริการคลื่น 900 MHz และการยุติบริการ 2G และสุดท้ายการบริหารจัดการเงินทุนเชิงรุกจากโอกาสในการขายสินทรัพย์ประเภทเสาสัญญาณ 

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X