ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับที่ 1580 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 1590 จุด แต่ยังมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาลง โดยมีแนวรับที่ 1560 และ 1550  จุด แต่มีแนวต้านสำคัญที่ 1600 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อทางเทคนิค

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ หุ้น PORT หรือ บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทให้บริการธุรกิจดังนี้1. ให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจร 2. ให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก 3. ให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้า 4. การให้บริการที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2562 กำไรสุทธิ 26,566 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.05 บาท กำไรลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 38,423 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.08 บาท

ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2562 มีรายได้รวม 1,189 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 83 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.17 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61 ที่มีรายได้รวม 1,168 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.22 บาท

นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทย เทอร์มินอล (PORT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 63 จะเติบโตได้ราว 5% ใกล้เคียงกับปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะเติบโต 5% จากปีก่อน โดยเป็นการเติบโตตามการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ขณะเดียวกันบริษัทอาจจะปรับประมาณการใหม่อีกครั้งหลังรอดูสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

ส่วนความคืบหน้าโครงการขยายธุรกิจท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 3 ผ่านการลงทุนใน บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอร์มินอล จำกัด (BRT) ที่ร่วมกับพันธมิตร โดยใช้เงินลงทุนในโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 64 ซึ่งบริษัทถือหุ้นในโครงการดังกล่าวประมาณ 30% คิดเป็นเงินลงทุนจำนวน 100 ล้านบาท

ขณะที่โครงการขยายศูนย์กระจายสินค้าและโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยลงทุนใน บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (BLP) ซึ่งร่วมทุนกับ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) จำนวน 50,000 ตร.ม.จะเปิดให้บริการในปลายปี 63 จะช่วยให้ปริมาณการขนถ่ายสินค้าผ่านท่าเรือเติบโตขึ้น และในอนาคตมีแผนจะขายสินทรัพย์ดังกล่าวเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT)

ในปี 63 บริษัทเตรียมเดินทางไปให้ข้อมูลให้กับนักลงทุนประเภทสถาบันในประเทศ (โรดโชว์) คาดว่าจะมีนักลงทุนประเภทสถาบันให้ความสนใจเข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้น โดยรูปแบบการเข้ามาถือหุ้นจะพิจารณาถึงความเหมาะสม และความสนับสนุนที่จะได้รับ ซึ่งอาจจะมีทั้งรูปแบบให้กลุ่มผุ้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออก หรือการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้กับสถาบัน เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มครอบครัวถือหุ้นรวมกันสัดส่วนประมาณกว่า 50%

PORT มีมูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ 2.50 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นที่ 2.16 บาท คิดเป็นอัตราส่วน Price/Book Value Ratio อยู่ที่ 0.95 เท่า ในขณะที่อัตราส่วน P/E Ratio อยู่ที่ 8.69 เท่า

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค หลังจากทะลุผ่านแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 2.20 ขึ้นไป ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2.40 และ 2.50 เป็นแนวต้านในระยะสั้น แต่ถ้าราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่า 2.14 ลงไป จะมีแนรับถัดไปที่ 2.04 และ 1.90

สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Trendtalk