สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า บล.ไทยพาณิชย์ มุมมอง ธปท.ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV เป็นบวกและจะส่งผลทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความต้องการที่อยู่อาศัยจริง (ส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบ) และจะช่วยให้การโอนคอนโดรอรับรู้รายได้เป็นไปอย่างราบรื่น สำหรับมาตรการนี้จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการโครงการที่อยู่อาศัยทุกราย 

ฝ่ายวิจัย ชอบ AP, LH และ SPALI มากที่สุด เลือกเป็น Top picks เพราะเชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยสนับสนุนการโอนกรรมสิทธิ์ยอดขายรอรับรู้รายได้สำหรับ AP (3.63 หมื่นลบ. – คอนโด 75% โดยรวมหุ้น 51% ใน JV เข้ามาด้วย และบ้านแนวราบ 25%) และ SPALI (3.87 หมื่นลบ. – คอนโด 87% และบ้านแนวราบ 13%) สำหรับ LH มาตรการนี้จะส่งผลดีต่อพอร์ตที่อยู่อาศัยระดับกลางของบริษัท (ราคาต่ำกว่า 10 ลบ./ยูนิต) ซึ่งคิดเป็นเป็นสัดส่วน 41% ของทั้งหมด และโครงการเปิดใหม่ของบริษัท (48% ของโครงการเปิดใหม่ทั้งหมด)

ทั้งนี้ ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV หลังจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ 4 มาตรการของกระทรวงการคลัง ไม่สามารถกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 ม.ค.63) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศผ่อนคลายเกณฑ์ LTV สำหรับการกู้ซื้อบ้านราคาต่ำกว่า 10 ลบ.: LTV 100-110% ซึ่งรวมการกู้เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้ามาด้วย (จาก 90-95%) 

สำหรับการกู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 1; LTV 90% หากผ่อนชำระสัญญาที่ 1 มาแล้วอย่างน้อย 2 ปี (ลดลงจาก 3 ปี); LTV 80% หากผ่อนชำระสัญญาที่ 1 ไม่ถึง 2 ปี (ลดลงจาก 3 ปี) 

ส่วนบ้านราคาสูงกว่า 10 ลบ.: LTV จะอยู่ที่ 90% (จาก 80%) สำหรับการกู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 1 และคง LTV ไว้ที่ 80% สำหรับสัญญาที่ 2 และ 70% สำหรับสัญญาที่ 3 เป็นต้นไป มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2563 เป็นต้นไป

โดยมาตรการนี้จะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย และอาจจะส่งผลทำให้มีการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นและปรับเรทติ้งหุ้นขึ้น การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV จะช่วยลดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสำหรับผู้ที่มีฐานะการเงินอ่อนแอ อีกทั้งยังจะช่วยให้ความต้องการที่อยู่อาศัยจริง โดยเฉพาะบ้านแนวราบ ปรับตัวเพิ่มขึ้น และสนับสนุนให้การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดรอรับรู้รายได้เป็นไปอย่างราบรื่น 

หลังจากการประกาศเกณฑ์ LTV เดิมในเดือนพ.ย. 2561 (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562) ยอดการปล่อยกู้ใหม่สำหรับการกู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 2 ลดลง 10.4% YoY สำหรับบ้านแนวราบ และ 25.3% YoY สำหรับคอนโดในช่วง 11 เดือนแรกปี 62 

ทั้งนี้ เราไม่คิดว่าการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อคอนโดใหม่ได้มากนัก เนื่องจากเราไม่คิดว่าความต้องการซื้อเพื่อลงทุนจากในประเทศหรือต่างชาติจะกลับมาในอนาคตอันใกล้นี้  

ปัจจุบัน คาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยจะเติบโต 5-10% จากฐานต่ำ โดยความต้องการบ้านแนวราบจะเติบโต แต่คอนโดจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย