> SET > BCH

23 มกราคม 2020 เวลา 08:10 น.

BCHโอกาสในวิกฤต ป่วยPM2.5ใช้บริการ

ทันหุ้น- ผู้บริหารBCH ชี้ฝุ่นPM 2.5 ดันยอดผู้ป่วยเข้าใช้บริการ หนุนโค้งแรกปี2563 แจ่ม พร้อมรับอานิสงส์ประกันสังคมเพิ่มค่ารักษา เดินหน้าเปิดโรงพยาบาลตามแผน คาดทั้งปี 2563 รายได้โตกว่า10% ฟากโบรกชี้สถิติที่ผ่านมาโรคระบาดส่งผลบวกต่อโรงพยาบาล ประเมินราคาเหมาะสม 20 บาท


รศ.ดร.นพ. เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยกรณีที่มีโรคระบาดพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทยจำนวน 2 ราย ซึ่งอยู่ในการควบคุม แต่ไวรัสดังกล่าวถือเป็นเรื่องระดับชาติจึงอยู่ในการควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งหากไม่ได้มีการรุกรามก็ไม่น่าจะส่งผลต่อบริษัท แต่บริษัทก็มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วย


ฝุ่นPM 2.5 ดึงผู้ป่วยเพิ่ม

แต่ขณะเดียวกันปัจจุบันผู้ป่วยของโรงพยาบาลก็เพิ่มขึ้นแต่มาจากปัญหาPM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้มีผู้ป่วยเข้ามารักษามากขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส1/2563 ไม่น่ากังวล แม้จะไม่ใช่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ขณะที่ผลประกอบการปี2562 คาดว่าจะประชุมคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด)ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


ส่วนผลประกอบการปี 2563 บริษัทยังเชื่อว่ารายได้จะเติบโตได้ 10% หรือ 2 ดิจิต จากการเติบโตของคนไข้ ภายในประเทศ (domestic) ทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) ยังมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนผู้ป่วยประกันสังคมก็มีอัตราเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้เชื่อว่าผลประกอบการยังเติบโตได้ดี นอกจากนี้จะมีการเปิดโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อรัญประเทศ ในเดือนเมษายน 2563 หรืออย่างช้าในเดือนพฤษภาคม โรงพยาบาลดังกล่าวจะช่วงเพิ่มคนไข้ในลูกค้าระดับกลางของประเทศกัมพูชา ที่จะสามารถใช้บริการได้สะดวกกว่าเดิม


อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากคณะกรรมการประกันสังคมเมื่อวันที่14 มกราคม 2563 ว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ ปี 2563 โดยปรับเพิ่มค่าเหมาจ่ายรายหัวเป็น 1,640 บาท จากเดิม 1,500 บาท (เพิ่มขึ้น9%) , OPD ภาระการรักษาโรคเรื้อรัง เป็น 453 บาท จากเดิม 447 บาท (เพิ่มขึ้น 1.3%) และ IPD จากโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW > 2) เป็น  746 บาท เพิ่มขึ้น 106 บาด จากเดิม 640 บาท (เพิ่มขึ้น 16%) ล้วนเป็นปัจจัยบวกให้มีความเสถียรภาพและไม่เกิดผลกระทบเหมือนช่วงที่ผ่านมา


BCHโดดเด่นในกลุ่ม

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST)ระบุถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2020 ต่อตลาดหุ้นไทยโดยมองว่าผลต่อตลาดคาดว่าจะไม่มาก เพราะไม่คาดว่าจะเหมือน SARS (2003) แต่ผลต่อหุ้นไทย จากสถิติ การเกิดโรคระบาดจะเป็นลบต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, สายการบิน และสนามบิน มากสุด


ส่วนกลุ่มที่จะได้รับผลบวก คือ กลุ่มโรงพยาบาล โดยราคาหุ้นจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากในช่วง1 เดือน หลังจากพบโรคระบาด โดยชอบหุ้น BCH และ CHG มากกว่า ขณะที่ BDMS และ BH ยังมีความเสี่ยงจากคนไข้ต่างชาติที่อาจลดลงได้


ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำซื้อ BCH ที่ 20.00 บาท อิง DCF ( WACC = 7%, TG = 3%) จากปัจจัยเฉพาะตัวที่หนุนรายได้ทั้งปี อาทิ ศูนย์ IVF หนุนรายได้ รพ.World medical และยังมี upside earning จากการเพิ่มค่าเหมาจ่ายรายหัวประกันสังคม อยู่ระหว่างปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563  และปรับราคาเป้าหมายขึ้น

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X