> SET > CPF

28 มกราคม 2020 เวลา 07:50 น.

หุ้นไทยถูกถล่มหนัก45จุด แนะตั้งสติรับมือแดงเดือด

ทันหุ้น –ตื่นโรคระบาดไวรัสโคโรน่ากดตลาดหุ้นไทยดิ่ง 45 จุด ต่ำสุดรอบ 3 ปี ผู้จัดการ ตลท. ชี้เป็นปัจจัยภายนอกแต่ตลาดหุ้นไทยสภาพคล่องสูงจึงโดนหนัก เชื่อยังสวิงได้อีกเหตุสถานการณ์ยังไม่ชัดเจน แนะตั้งสติมองอุตสาหกรรมที่ไม่เกี่ยว มั่นใจหากควบคุมได้หุ้นรีบาวน์ ด้าน ก.ล.ต. แนะติดตามข่าวสารใกล้ชิด ฝั่งนักวิเคราะห์กางตำรารับมือ แนะรอดูสถานการณ์ก่อนซื้อถัว


ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (27 ม.ค.) ถูกถล่มเทขายอย่างแรง โดยดัชนีร่วงลงไปต่ำสุดที่ 1519.03 จุด ก่อนที่จะปิดที่ 1524.15 จุด ลดลง 45.40 จุด หรือ 2.89% ซึ่งเป็นการปิดที่ต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี


ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ผลกระทบหลักมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากประเทศจีน ท่ามกลางที่หลายๆตลาดในเอเชียยังปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้มีแรงขายออกมาจำนวนมากในตลาดหุ้นที่เปิดอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากอย่างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและขนส่งและกดดันให้หุ้นทุกกลุ่มร่วงต่ำลงมาตาม รวมถึงกลุ่มการแพทย์ และกลุ่มที่ได้รับผลดีจากภาวะในประเทศ ที่ไม่ควรจะปรับตัวลดลงตามไปกับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ จึงอยากให้นักลงทุนพิจารณาให้ดี


“ฝากให้นักลงทุนมองเป็นอุตสาหกรรมว่าถูกกระทบหรือไม่ได้รับผลกระทบ ต้องพิจารณาดูข้อมูลให้ดี อย่างเช่น กลุ่มธุรกิจขนส่งและท่องเที่ยวซึ่งเห็นด้วยว่าได้รับผลกระทบ  แต่ธุรกิจอื่น ๆ ยังต้องติดตามผลกระทบรอบด้านให้ชัดเจนก่อน ช่วงเป็นวิกฤตบางครั้งจะมีผลกระทบที่เกินปกติ หรือ โอเวอร์รีแอคชั่น ในตลาดที่มีสภาพคล่องที่สูงอย่างประเทศไทยเฉลี่ยที่ 5 หมื่น-แสนล้านบาท ทำให้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ซึ่งก็เป็นโอกาสของนักลงทุน ในช่วงระดับราคาที่ต่ำกว่าควรจะเป็นได้เช่นกัน”


อย่างไรก็ดีเนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบถึงผลกระทบจากไวรัสโคโรน่าว่ามากน้อยอย่างไร จึงเชื่อว่าจะมีการสวิงของดัชนีได้อีกมากในช่วงนี้ เเต่หากข่าวเริ่มชัดเจนว่าไวรัสโคโรน่าควบคุมได้ ตลาดหุ้นก็จะมีการปรับตัวอีกครั้ง ในอุตสาหกรรมที่โดนผลกระทบเยอะก็จะมีการรีบาวด์


ทั้งนี้ทาง ตลท. ได้มีการเเจ้งข้อมูลต่อผู้กำกับตลาดหลักทรัพย์ทั้ง กระทรวงการคลังเเละธนาคารแห่งประเทศไทยไปแล้วว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เเละทำข้อมูลเสนอเป็นที่เรียบร้อย โดย ยืนยันว่ามาตรการที่มีอยู่คือ เซอร์กิต เบรกเกอร์ หากตลาดหุ้นร่วงแรงไปถึง 10% สามารถรับมือได้


ด้านนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์เป็นไปในแนวทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งเกิดความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดย ก.ล.ต.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจจัดการลงทุน รวมทั้งต.ล.ท. อย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน


นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด กล่าวกับ "ทีมข่าวทันหุ้น" ว่า ไวรัสโคโรน่าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้กระทบกับกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยว10% โดยเป็นนักท่องเที่ยวจีนถึง 30%กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้รอดูสถานการณ์ไปก่อน คนมีอยู่ถือต่อรอซื้อถัว เเนะนำกลุ่มโรงพยาบาลมีความปลอดภัยเเละส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทเริ่มอ่อนค่า


นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ รอดูสถานการณ์ไปก่อน ถ้ายังคงมีเเรงขายมาต่อต้องปรับลดพอร์ตลง ลดความเสี่ยง หุ้นเเนะนำคือ BDMS มีรายได้ที่มั่นคง ประกอบกับมีโปรเจคในมือ และยังเเนะนำ CPF ได้รับอานิสงส์จากราคาหมูไก่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งออกไปยังจีนมากขึ้น ราคาเป้าหมาย 35 บาท


นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในอดีตโรคซาร์สทำให้ดัชนี SETปรับตัวลงมา1เดือนถึงจะหาจุดต่ำสุดเจอ โดยรอบนี้ต้องติดตามสถานการณ์ต่อ1-2สัปดาห์น่าจะหาจุดต่ำสุดเจอ โดยกลุ่มสนามบิน สายการบินเเละโรงเเรม ถ้ารับความเสี่ยงได้น้อยควรรอดูสถานการณ์ไปก่อน ส่วนถ้าสามารถรับความเสี่ยงได้มากเข้าซื้อได้ ระยะสั้นลุ้นทำรีบาวด์เเนะนำ TISCO หุ้นปันผลสูงจ่าย 7บาท/หุ้น Dividend Yield 6.5%เเนะนำซื้อสะสม Stop loss หากหลุด 100 บาท นอกจากนี้คงแนะนำหุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัวหรือได้รับผลกระทบน้อยจากสถานการณ์โรคระบาด อย่าง กลุ่มนิคมฯ และ รับเหมาฯ ที่จะได้รับปัจจัยบวกจาก พรบ. งบประมาณปี63 จะมีคำตัดสินออกมา เเนะนำ AMATA, WHA, STEC, CK และเเนะนำหุ้น KSL กลุ่มโรงน้ำตาลวอลุ่มซื้อเริ่มกลับมา ซึ่งได้รับเเรงหนุนจากการบังคับใช้เเก๊สโซฮอล์E20

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X