สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สแกน "กลุ่มธนาคาร-ไฟแนนซ์" มุมมอง กนง.มีมติลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 1% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ กลุ่มธนาคารในทางทฤษฎีจะมีผลลบต่อธพ.ขนาดใหญ่ หากธพ.ปรับลดดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝาก พร้อมกัน ยังส่งผลลบต่อ Net Interest Margin เนื่องจากในฝั่งเงินฝากมีเงินฝากประจำ ซึ่งจะไม่สามารถลดได้ทันทีเหมือนฝั่งเงินกู้ ที่ส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งลดได้ทันที แต่ในความเป็นจริง ธพ.สามารถปรับ MIX ทั้งทางด้านเงินฝากและทางด้านเงินกู้ เพื่อลดผลกระทบดังกล่าวได้ เชื่อกระทบทางลบกับธพ.ขนาดใหญ่บ้าง
ขณะที่จะเป็นผลบวกกับธพ.ขนาดเล็ก ที่สินเชื่อส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อซึ่งรายได้ดอกเบี้ยจะ fix ไว้อยู่ตลอดอายุสัญญา ขณะที่ต้นทุนเงินฝาก(ออมทรัพย์)ลดลงได้บางส่วนในทันที ซึ่งจะส่งผลดีต่อ NIM ของธพ.ขนาดเล็ก แนะนำ "ซื้อลงทุน" KKP(TP 79.-) และ TISCO (TP 112.-) ซึ่งได้รับผลดีดังกล่าว และยังจ่ายปันผลทั้งปีสูงถึง 7.5% และ 7% ตามลำดับ
ส่วนกลุ่มไฟแนนซ์ คาดการลดดอกเบี้ยจะส่งผลบวกกับ Spread ของกลุ่ม non-bank ประเภท ลีสซิ่ง และเช่าซื้อ โดยเฉพาะ MTC (TP 71.- ) กับ SAWAD (TP 70.- )แต่จากราคาที่ขึ้นมาสูงมากแล้ว สำหรับ MTC แนะ "ถือ" รอโอกาสขายหากราคาเข้าใกล้ราคาเป้าหมายของเรา ส่วน SAWAD แนะ "ขายทำกำไร" หลังราคาปัจจุบันที่ 75บ. สูงกว่าราคาเป้าหมายของเราแล้ว โดยแนะนำ "ซื้อลงทุน" ASK (TP 30.- ) ยังมี upside 19% และปันผลสูงถึงราว 6.8%
**กนง. ประกาศลดดบ.นโยบาย เป็นลบต่อแบงก์ใหญ่
บล.ทรีนีตี้ ส่อง "กลุ่มธนาคาร" กนง. ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1.00% จะส่งผลลบต่อ NIM ของธนาคารขนาดใหญ่ สำหรับธนาคารพาณิชย์มี KBANK ที่ประกาศลดดอกเบี้ย MRR ลง 0.25% และคาดว่าจะเห็นธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ทยอยปรับลดดอกเบี้ยตามในลักษณะเดียวกัน โดยเรามองว่าปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบด้านลบต่อ NIM และ กำไรของธนาคารขนาดใหญ่ เช่น BBL KBANK SCB KTB TMB ขณะที่จะเป็นบวกต่อ NIM และกำไรของธนาคารขนาดเล็ก เช่น TISCO โดยเราประเมินผลกระทบต่อกำไรจากการลดดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ MRR และ MOR และเงินฝากบางส่วน 0.25% ตามแผนภาพด้านล่าง
แนะนำ Selective Buy สำหรับการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบด้านลบ ยังคงแนะนำ BBL (ราคาเป้าหมาย 173 บาท) ซึ่งได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และมี Valuation ที่ถูกที่สุดในกลุ่มฯ ขณะที่ธนาคารขนาดเล็กเรายังเลือก TISCO (ราคาเป้าหมาย 115 บาท) เนื่องจากได้ผลบวกจากปัจจัยดังกล่าว และจ่ายปันผลค่อนข้างสูง
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม