> SET > ROJNA

07 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 08:20 น.

รัฐอัด3มาตรการเร่งลงทุน นิคมฯรับอานิสงส์พร้อมดีด

ทันหุ้น –ระทึกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน พ.ร.บ.งบประมาณ “สมคิด” สั่งเดินหน้าระดมเงินเข้า TFFIFใช้ลงทุน ด้านคลังพร้อมกู้เงินลงทุนโครงการใหม่ ด้านบอร์ด BOI คลอด 2 มาตรการพิเศษกระตุ้นการลงทุน กูรูฟังธงกลุ่มนิคมฯ รับอานิสงส์เต็มแนะ “ซื้อ” ROJNA เป้า 8.50 บาท, WHA เคาะ 6.50 บาท และ AMATA ชี้ที่ 29 บาท


วันนี้จับตากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญลงมติวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2563


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลังถึงแนวทางบริหารจัดการกรณี พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มีความล่าช้าออกไปอาจเริ่มใช้จ่ายหลังเดือนพฤษภาคม 2563 ดังนั้นจึงเสนอให้เร่งดำเนินการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ TFFIF เฟส 2 ให้เร็วขึ้น รวมถึงการออกพันธบัตรเพื่อใช้ลงทุนในโครงการขนาดใหญ่แทน


นอกจากนี้ยังมีแนวคิดในการดึง Theme Park มาลงทุนในพื้นที่ EEC เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยได้มอบหมายให้คณะทำงานไปพิจารณาในรายละเอียด เช่น ดึง Universal เข้ามา เมื่อรถไฟเชื่อม 3 สนามบินเสร็จ สามารถดึงคนกรุงเทพมาเที่ยวได้ รวมถึงต้องมีพัฒนาดิจทัล 5G ใน EEC


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำรัฐบาลพร้อมที่จะดำเนินมาตรการทุกด้านเพื่อรักษาความเชื่อมั่นระบบเศรษฐกิจไทย โดยล่าสุดได้ขยายงบกลางเป็น 75% รองรับเงินเดือนข้าราชการ, งบลงทุนผูกพัน ให้สามารถเบิกจ่ายต่อไปได้ ส่วนงบลงทุนใหม่นั้นต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ เบื้องต้นกระทรวงการคลังเตรียมพิจารณากู้เงินมาลงทุนโครงการใหม่ โดยใช้กฎหมายของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เพื่อจับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป


ขณะเดียวกัน นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ระบุ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดBOI) เห็นชอบมาตรการพิเศษ 3มาตรการกระตุ้นการลงทุน ประกอบด้วย1.สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50%เพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 5 ปีให้กับผู้ประกอบการที่มีการลงทุนจริงไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ภายในปี 2563หรือไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2564สามารถขอรับการส่งเสริมตั้งแต่ 2 มกราคม 2562 -30ธันวาคม 2563


พร้อมกันนี้ บอร์ด BOI ได้กำหนดคำจำกัดความของ SMEs ให้สอดคล้องกับคำจำกัดความของ SMEs ของ สสว.ที่มีการปรับปรุงเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ช่วยให้ SMEs เข้าถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ง่ายขึ้น รวมถึงขยายระยะเวลาการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจฐานรากออกไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564  และขยายขอบข่ายคุณสมบัติของผู้ขอรับการส่งเสริมให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยให้รวมถึงผู้ประกอบการที่มีกิจการที่ดำเนินกิจการอยู่เดิมแต่ยังไม่เคยได้รับการส่งเสริมมาก่อนด้วย ทั้งนี้กิจการที่ดำเนินการอยู่เดิมจะต้องเป็นประเภทกิจการที่BOI ให้การส่งเสริมในปัจจุบัน


นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบอนุมัติให้การส่งเสริมแก่กิจการผลิตยางล้อสำหรับยานพาหนะจำนวน 1 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 7,915 ล้านบาท วัตถุดิบหลักในการผลิต ได้แก่ ยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ โดยจะใช้ยางธรรมชาติในประเทศประมาณ 40,200 ตันต่อปี


หนุนกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ระบุ มาตรการพิเศษทั้ง3 มาตรการเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นการส่งเสริมการลงทุนที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง SME ขึ้นไปถึงผู้ประกอบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ประกอบกับก่อนหน้านี้ BOI มีมาตรการส่งเสริมการลงทุน Thailand Plus Package ให้สิทธิประโยชน์กับผู้ลงทุนสูงกว่า 1,000 ล้านบาท โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ค่อนข้างเหมาะสมและให้กรอบเวลาเพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนเร่งตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)


“เป็นมาตรการที่ถือว่าครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าเหมาย และสิทธิที่ให้ถือว่าน่าดึงดูดอย่างมีนัย ทั้งนักลงทุนไทย และนักลงทุนต่างชาติ เป็นดัชนีชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพื่อสนับสนุนภาคเอกชนให้ขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้อย่างคล่องตัวที่สุด ดังนั้นขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าจะสามารถนำมาตรการดังกล่าวไปต่อยอด ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาได้มาก – น้อยขนาดไหน”


ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ทั้ง ROJNAราคาเหมาะสมที่ 8.50 บาท, WHA ราคาเหมาะสม 6.50 บาท และ AMATA ราคาเหมาะสม 29 บาท โดยคาดการณ์กำไรปกติงวดไตรมาส 4/2562 ที่ 323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ลดลง 59% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2562 (QoQ) โดยหากเป็นไปตามประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2562 ของ AMATA จะอยู่ที่ 5,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.19% เมื่อเทียบกับปี 2561


ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ยอดขายที่ดินทั้งปี 2563 ของ AMATA ที่ 950 ไร่ เพิ่มขึ้น48% เมื่อเทียบกับ 648 ไร่ในปี 2562 แบ่งเป็นในประเทศไทย 710 ไร่และ 250 ไร่ในเวียดนาม พร้อมคาดการณ์ว่านิคมอุตสาหกรรมทุกนิคมของ AMATA จะไม่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เนื่องจากบริษัทมีน้ำสำรองในอ่างเก็บน้ำของบริษัทเองและทำสัญญากับเจ้าของอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งมีปริมาณมากพอรองรับความต้องการใช้น้ำได้นานถึง 12 เดือน นอกจากนี้บริษัทยังสามารถใช้น้ำรีไซเคิลได้มากถึง 30% ของความต้องการซึ่งจะช่วยลดผลกระทบได้อย่างมีนัยสำคัญ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 29 บาทมี Up sideสูงสุดในกลุ่มฯ


รับเหมาฯ ดีดรับงบฯปี2563

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ การที่ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างขยับขึ้นวานนี้ (6 ก.พ.) เป็นการตอบรับเชิงบวกกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วันนี้ (7 ก.พ.) จะเป็นการปลดล็อกงบลงทุนภาครัฐฯ โดยคาดการณ์ว่าจะช่วยให้รัฐบาลมีช่องทางการเบิกจ่ายงบประมาณฯ เพื่อเดินหน้าโครงการขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้น ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” CK  ราคาเหมาะสม 26.40 บาท โดยปัจุบันมูลค่าหุ้นเทรดที่ PBV ต่ำกว่า -1SD ถือว่าไม่แพง นอกจากนี้ CK ยังมีลุ้นข่าวดีด้านการประมูล MRT สายสีส้มที่จะเกิดขึ้น

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X