> SET > ROJNA

11 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 09:33 น.

ROJNA โบรกคาดกำไรปกติ Q4/62 เติบโต , ปันผลงวดสุดท้ายจะเป็นปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น

สำนักข่าว ทันหุ้น บล.ไทยพาณิชย์ สแกน บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA คาดว่ากำไรปกติ Q4/62 จะเติบโต 44% YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 25 ไร่ ซึ่งจะทำให้กำไรปกติปี 2563 อยู่ที่ 505 ลบ. ยอดขายที่ดินในปี 2562 ใกล้เคียงกับประมาณการอย่างมาก แต่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินต่ำกว่าประมาณการ


ทั้งนี้ แม้การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ดินและการโอนกรรมสิทธิ์ในระยะสั้น แต่ประเทศไทยอาจจะได้รับประโยชน์ในระยะกลางถึงระยะยาว ถ้าผู้ผลิตนำนโยบาย “China Plus One” มาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก ปรับประมาณการยอดขายที่ดินและกำไรปี 2563-2564 ลดลง และปรับราคาเป้าหมายลดลง 6% สู่ 8 บาท/หุ้น แต่ยังคงให้ผลตอบแทนรวมที่น่าสนใจ 60% คาดการณ์เงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2562 ที่ 0.2 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.9% ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น แนะนำ “ซื้อ”


**สรุปผลงานปี 2562 

ROJNA ขายที่ดินได้ 423 ไร่ในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 50% YoY คิดเป็น 94% ของประมาณการยอดขายที่ดินปี 2562 ของ SCBS ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนชาวจีนขนาดเล็กและขนาดกลางในหลายอุตสาหกรรมด้วยกัน บริษัทโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 261 ไร่ ต่ำกว่าประมาณการ; ยอดขายที่ดินรอรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นสู่ 670 ไร่ ณ สิ้นปี 2562 ธุรกิจโรงไฟฟ้าอ่อนตัวลง YoY เพราะต้นทุนก๊าซสูงขึ้น แต่ราคาขายคงที่


**กำไรปกติ Q4/62 โต YoY,QoQ 

ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรปกติ Q4/62 ที่ 85 ลบ. เทียบกับ 59 ลบ. ใน Q4/61 และ 80 ลบ. ใน Q3/62 โดยได้รับการสนับสนุนจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 25 ไร่ ด้วยอัตรากำไรที่ดีในระดับ 65% กำไรสุทธิ Q4/62 จะอยู่ที่ 180 ลบ. -28% YoY, -74% QoQ เพราะกำไรจากเงินลงทุนใน GULF ลดลง บริษัทจะประกาศผลประกอบการวันที่ 27 ก.พ.


แนวโน้มปันผลงวดสุดท้ายที่ 0.2 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.9% เมื่อรวมเงินปันผลระหว่างกาลเข้ามา เงินปันผลปี 2562 จะอยู่ที่ 0.4 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 7.8% สูงที่สุดในกลุ่มผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม


แนวโน้มปี 2563 

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและกาที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของ ROJNA เป็นชาวจีน ทำให้เราคาดว่ายอดขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมและยอดโอนกรรมสิทธิ์จะชะลอตัวลงอย่างน้อยใน Q1/63 เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นแค่ในระยะสั้น แต่ก็ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก 


ทั้งนี้ในระยะกลางถึงระยะยาว เราเชื่อว่านักลงทุนชาวจีนจะนำเอานโยบาย “China Plus One” มาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก และประเทศไทยจะเป็นตัวเลือกที่ดี โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการ EEC และการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ เราปรับประมาณการยอดขายที่ดินปี 2563 ของ ROJNA ลดลง 12% สู่ 493 ไร่ และปี 2564 ลดลง 16% สู่ 553 ไร่


**หั่นประมาณการกำไร 

ปรับประมาณการกำไรของ ROJNA ลดลง 27% สู่ 505 ลบ.ในปี 2562, 31% สู่ 664 ลบ.ในปี 2563 และ 31% สู่ 862 ลบ.ในปี 2564 เพื่อสะท้อนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินต่ำกว่าคาด - ปรับลง 41% สู่ 261 ไร่ในปี 2562 และ 28% สู่ 470 ไร่ในปี 2563 และ 625 ไร่ในปี 2564 


โดยกำไรจะเติบโตที่ CAGR ระยะ 3 ปีที่ 32% เมื่อรวมกำไรที่ยังไม่รับรู้สำหรับ GULF และอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามา กำไรสุทธิปี 2562 จะอยู่ที่ 1.9 พันลบ. ใช้สมมติฐานว่าไม่มีกำไรพิเศษในปี 2563-2564 Upside ของประมาณการ คือ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมากกว่าคาด และการปรับค่า Ft ในธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยให้กำไรของธุรกิจโรงไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้น


คงคำแนะนำ “ซื้อ” หลังจากปรับประมาณการกำไรและเปลี่ยนมาใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2563 เราก็ปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี SOTP ลดลงจาก 8.5 บาท/หุ้น สู่ 8 บาท/หุ้น คาดว่าผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2562 ที่น่าดึงดูดจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น และคงคำแนะนำ “ซื้อ”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X