สำนักข่าว"ทันหุ้น"รายงานว่า  7 โบรกเกอร์เปิดมุมมองต่อหุ้นบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE หลังมีการให้ข้อมูลแก่นักวิเคราะห์ ซึ่งผู้บริหารเปิดเผยถึงเป้าหมายในปีนี้ ซึ่งโบรกเกอร์หลายแห่งมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น แห่ปรับราคาเป้าหมายขึ้น ขณะที่คำแนะนำยังมีความเห็นที่หลากหลาย และมีมุมมองที่แตกต่าง 

บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ได้ปรับคำแนะนำหุ้น KCE เพิ่มขึ้นเป็นซื้อ พร้อมกับปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 35 บาทต่อหุ้นจากเดิมที่ 17 บาทต่อหุ้น โดยมีมมองเป็นบวกมากขึ้นจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ ซึ่งผู้บริหารมีความมั่นใจมากขึ้นต่อแนวโน้มกำไรปี 2563 จากตั้งเป้ารายได้สกุลดอลลาร์สหรัฐโต 10-15%,อัตรากำไรขั้นต้น มีโอกาสที่จะปรับตัวดีขึ้น จากต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงงานที่ลดลง และการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น ทำให้ประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะดีขึ้นสู่ระดับ 25% จากปีก่อนที่ 21% ส่วนผลกระทบจากไวรัสโคโรนาต่อยอดขายมีจำกัด โดยไตรมาสแรกปีนี้มีคำสั่งซื้อเข้ามาประมาณ 90% ของไตรมาสแล้ว ฝ่ายวิจัยจึงได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 และ 2564 เพิ่มขึ้น 111% และ 16% ตามลำดับ 

ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น และ outperform SET เพิ่มขึ้น 55% จากการเจรจาการค้าและค่าเงินบาทที่ดีขึ้น  อย่างไรก็ตามยัง underperform SET ลดลง 17% ในช่วง 12 เดือน  ราคาปัจจุบันยังถือว่าน่าสนใจ เทรดที่ พี/อี ปี 2563 เพียง 14 เท่า  โดยมองว่า KCE ควรกลับมาเทรดที่ระดับ เฉลี่ยที่ 22 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) จากกำไรที่จะกลับมาเติบโตดีหลังปัจจัยลบต่างๆมีทิศทางที่ดีขึ้น  

ด้านบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำเก็งกำไร โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 26 บาทต่อหุ้น แม้เป้ายอดขายและอัตราการทำกำไรขั้นต้นของบริษัทฯในปีนี้ จะดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดียังคงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ที่ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 83%  และกำไรปกติปี 2564 ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%   และคาดยอดขายไตรมาส 1/63   โต 5%-10% โดยมองว่ายอดขายจะเติบโตเพิ่มขึ้นรายไตรมาส อย่างไรก็ตาม มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเหมาะสมในระยะถัดไป

บล.ฟินันเซีย ไซรัส  ได้ปรับราคาเป้าหมายหุ้น KCE ขึ้นเป็น 25 บาทต่อหุ้น จากเดิม 17 บาทต่อหุ้น หลังจากผู้บริหารได้ระบุเป้าหมายในปีนี้ ว่าจะมียอดขายโต 10-15% อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น เพราะหันไปผลิตสินค้าซับซ้อนสูง HDI และ  Radar ที่ใช้กับรถ EV ซึ่งมีผู้ผลิตน้อยราย ทำให้กำไรปี 2563-64 เพิ่มจากเดิม 19-28% เป็นเติบโต 80% ปีนี้และโต 28% ในปีหน้า ประมาณการของฝ่ายวิจัยค่อนข้าง aggressive ขณะเดียวกันราคาหุ้นได้สะท้อนการฟื้นตัวไปแล้ว จึงแนะนำซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว 

บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี แนะนำ "ขาย" ให้ราคาเป้าหมาย 18 บาท/หุ้น เห็นสัญญาณอัตรากำไรดีขึ้นจากส่วนประสมผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น, ต้นทุนวัตถุดิบลดลง และประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น แต่ก็เชื่อว่าราคาหุ้นสะท้อนถึงการมองโลกในแง่ดีของผลประกอบการของ KCE ในปี 2563  ยังคงคำแนะนำ "ขาย" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 18 บาทต่อหุ้น 

 บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำถือ โดยปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น  25.00 บาทต่อหุ้น  จากเดิมที่ 15.80 บาทต่อหุ้น พร้อมกับปรับกำไรสุทธิปี 2563 เพิ่มขึ้น 13% คาดว่ารายได้จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากสินค้าชิ้นส่วนใหม่ เทคโนโลยีใหม่ และลูกค้ารายใหม่ โดยประเมินรายได้รวมในไตรมาสแรกปีนี้จะเติบโตแบบ High Single-Digit และฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงที่เหลือของปี โดยให้มมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ อย่างอนุรักษ์นิยมอยู่ที่ 7% ต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 10% - 15% และสมมติฐานค่าเงินบาทที่ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ 

แม้จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเป้าหมาย แต่ Upside ยังคงจำกัด ประกอบกับภาพรวมอุตสาหกรรมที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน รวมถึงค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาแข็งค่าอีกครั้งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้การประมาณการผลประกอบการยังมี Downside

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)   ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นถือ  จากเดิมแนะนำ ขาย ให้ราคาพื้นฐานใหม่ 22.40 บาท  จากเดิมที่ 17.50 บาทต่อหุ้น เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/63   ดีกว่าที่เคยคาดไว้  และปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 และ 2564  ขึ้น 13% และ 3% สะท้อนการปรับเพิ่มการเติบโตยอดขายปี 2563 เป็น +8% (เดิม +5.2%) และอัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นเป็น 24% (เดิม 22%) 

อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้มองภาพบวกมากในปีนี้ เพราะ COVID19 กระทบห่วงโซ่การผลิตรถยนต์และทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคย่ำแย่ลงด้วย ทาง Chin Poon ได้รายงานตัวเลขยอดขายเบื้องต้นเดือนม.ค. 2563 พบว่าหดตัวถึง 26%   

บล.กสิกรไทย ปรับราคาเป้าหมาย KCE เพิ่มขึ้นเช่นกัน เป็น 28.25 บาท จากเดิมที่ 23.30 บาท พร้อมกับแนะนำซื้อ เนื่องจากราคาเป้าหมายมีผลตอบแทนที่ 18.8% แบ่งเป็นกำไรจากส่วนต่างราคาที่ 14.4% และอัตราตอบแทนเงินปันผลที่ 4.4% พร้อมกับปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 เพิ่มขึ้น 25% และ 14% ตามลำดับ ขณะที่ผู้บริหาร KCE มองว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จะส่งผลบวกต่อ KCE ซึ่งฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทยเป็นกลางต่อผลกระทบจากไวรัส จากเดิมมองเป็นลบเล็กน้อย 

7 โบรกเกอร์ที่มองหุ้น KCE 

บล.                                         คำแนะนำ                             ราคาเป้าหมาย (บาท)

กสิกรไทย                                 ซื้อ                                                 28.25

ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี                      ขาย                                               18.00

เคทีบี(ประเทศไทย)                    ซื้อ                                                35.00

ดีบีเอส วิคเคอร์ส                        ถือ                                                 22.40

หยวนต้า(ประเทศไทย)            เก็งกำไร                                            26.00

เอเซีย เวลท์                             ถือ                                                  25.00

ฟินันเซีย ไซรัส                    ซื้อเมื่ออ่อนตัว                                      25.00