> SET > BDMS

28 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 07:30 น.

BDMSตั๊งโต๊ะฮุบBHแสนล. โสภณพนิชไม่ขาย-ร้องสอบ

ทันหุ้น-BDMS ประกาศทำเทนเดอร์ฯ  BH ที่ราคาหุ้นละ 125-150 บาท ใช้เงิน 8.5 หมื่นล้าน ถึง แสนล้านบาท ด้าน “ชัย โสภณพนิช” ลั่นตระกูลและพันธมิตรไม่ขาย ต้องการถือยาว ชี้พรรคพวกมีสัดส่วนถือหุ้นรวม 50% ขณะที่โบรกเกอร์มองเข้าซื้อราคาไม่แพง แนะนักลงทุนตัดสินใจเองชี้ระยะยาวยังดี ขณะที่บิ๊ก BH ร้องบอร์ดแข่งขันการค้าสอบ


นางนฤมล น้อยอ่ำ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข ในหลักทรัพย์ทั้งหมดของ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH โดยจะทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญจำนวน 546.33 ล้านหุ้น หรือ 74.83%, รวมถึงหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 1.21 ล้านหุ้น หรือ 0.17% และหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมด ชุดที่ 1 และ 2 ซึ่งสามารถแปลงสิทธิเป็นหุ้นสามัญของ BH ได้จำนวน 137.36 ล้านหุ้น โดยจะทำคำเสนอซื้อหุ้นในราคาหุ้นละ 125 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 85,612.73 ล้านบาท


ราคาเสนอซื้ออาจถูกปรับขึ้นได้ในอัตราไม่เกิน 20% ของราคาเสนอซื้อ หากปรับราคาจะมีมูลค่าเสนอซื้อเป็น 102,735.28 ล้านบาท ซึ่งการปรับราคาดังกล่าวจะพิจารณาจากความเหมาะสมของสภาวะตลาด และราคาซื้อขายหุ้น BH ในขณะนั้น ซึ่งปัจจุบัน BDMS ถือหุ้นใน BH จำนวน 182.51 ล้านหุ้น หรือ 24.99%เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง


สาเหตุที่ BDMS ทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นการลงทุน เนื่องมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ และมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง มีความสามารถในการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน มีบุคลากรทางแพทย์ที่มีความชำนาญ และเป็นที่รู้จักของคนไข้ชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาวงและเอเซียแปซิฟิก สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการทำคำเสนอซื้อ จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน


ขณะเดียวกันคณะกรรมการบริษัท BDMS ได้มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,668.66 ล้านบาท จากเดิมที่ 1,589.20 ล้านบาท โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวน 794.60 ล้านหุ้น โดยการเพิ่มทุนดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ในการขยายกิจการของบริษัท ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินกิจการในอนาคต


**กลุ่ม BBL ยันไม่ขาย BH

นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ  บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 เปิดเผยกับ”ทันหุ้น”ว่า BKI และบริษัทในเครือของ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBL และครอบครัวโสภณพนิช ไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้น BH  เพราะต้องการที่จะลงทุนในระยะยาว เนื่องจากเป็นบริษัทที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดได้จ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 3.20 บาท


โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ BH ณ วันที่ 28 ส.ค.2562 จะมี BKIถือหุ้นในสัดส่วน 14.65% และยังมี บริษัท วัฒนโสภณพนิช จำกัด ถือหุ้น 3.59%, นายชัย โสภณพนิช ถือหุ้น 1.40%, นายชาลี โสภณพนิช ถือหุ้น 0.72% และนายชาตรี โสภณพนิช ถือหุ้น 0.51%


“ในเครือเรากับพันธมิตร ถือหุ้น BH อยู่กว่า 50% ซึ่งเราต้องการที่จะถือหุ้นระยะยาว ส่วนการที่ BDMS มีการทำเทนเดอร์ มองว่าเนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นของ BDMS ใน BH ใกล้จะถึง 25% การเพิ่มสัดส่วนจึงต้องทำตามเกณฑ์ของ ก.ล.ต.ที่กำหนดไว้ การเข้ามาลงทุนเพิ่มของ BDMS ใน BH เชื่อว่าเป็นการลงทุนเท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการดำเนินธุรกิจของ BHแต่อย่างใด” นายชัย กล่าว


**BH ร้องบอร์ดแข่งขันสอบ BDMS

นางลินดา ลีสหะปัญญา กรรมการผู้จัดการ BH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า BH และ BDMSต่างดำเนินธุรกิจอย่างอิสระต่อกันและปราศจากการประสานความร่วมมือทางธุรกิจใดๆ และเห็นว่าทั้งสองกลุ่มโรงพยาบาลดำเนินธุรกิจที่แข่งขันและต่างเป็นผู้นำในธุรกิจด้านการแพทย์ ดังนั้นบริษัทจะเข้าเรียนปรึกษาและให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.) เพื่อชี้แจงถึงสภาพการแข่งขันในธุรกิจด้านการแพทย์ปัจจุบัน และขอความชัดเจนในเชิงนโยบายเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดย BDMS ด้วย


**โบรกมองซื้อไม่แพง

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) มองว่า การที่ BDMSทำคำเสนอซื้อหุ้น BH ส่วนหนึ่งมาจากการที่ราคาหุ้นของ BH ปรับตัวลงไปมาก ระดับราคาที่คำเสนอซื้อประมาณ 125-150 บาทต่อหุ้น เป็นระดับราคาที่ไม่สูง เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของ BHซึ่งเป็นหุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลที่สูงสุดในกลุ่มโรงพยาบาลด้วยกันนอกจากนี้ BH ยังมีจุดเด่น จากการที่ใช้เทคโนโลยีมารักษาโรคที่มีความซับซ้อน ซึ่งทำให้มีมาร์จิ้นที่ดีกว่า รวมถึงเป็นผลทำให้ผู้ป่วยต่างชาตินิยมมาใช้บริการ


สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้น BH อยู่จะถือต่อหรือจะขายขึ้นอยู่กับมุมมอง ซึ่งการที่มีการทำคำเสนอซื้อทำให้เป็นผลบวกต่อราคาหุ้นในระยะสั้น ขณะที่ในระยะยาวมองว่า BHยังมีการเติบโตอยู่แม้จะอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากก็ตาม


ส่วน BDMS ได้ให้ข้อมูลกับนักวิเคราะห์ ซึ่งปรับลดประมาณการรายได้ปี 2563 ลงโต 3-4% จากเดิมที่เคยโต 6-8%ดังนั้นในมุมมองของฝ่ายวิจัย จึงได้ปรับลดประมาณการรายได้ปีนี้ลงตาม จากเดิมคาดว่าจะโต 7% ปรับลดเหลือ 3%ดังนั้นจึงจะมีการปรับราคาเป้าหมายของ BDMS ลงด้วย จากขณะนี้ที่ 26.60 บาทต่อหุ้น ส่วนคำแนะนำยังเป็น NEUTRAL

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X