ทันหุ้น –UNIQ ปีนี้ประมูลงานไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท เช่นโครงการรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม แหลมฉบังเฟส3 เป็นต้น ตั้งเป้าคว้างานใหม่ปีนี้ 2-3 หมื่นล้านบาท เติม Backlog ในมือจากปัจจุบันที่ 2.7 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้เป็นรายได้ในอีก 2 ปี พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท แย้มกลางปีเล็งออกหุ้นกู้ หวังลดต้นทุนการเงินลงจากปัจจุบันที่ 3-5% มองปีนี้งานรับเหมาก่อสร้างยังทยอยออกจากไม่ต่ำกว่าปีก่อน

แหล่งข่าวจาก บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมงานรับเหมาก่อสร้างปีนี้คาดว่างานจะทยอยออกมาต่อเนื่อง แม้ว่างบประมาณจะมีความล่าช้าในช่วงที่ผ่านมาบ้าง แต่ขณะนี้มองว่าโครงการต่างๆ เร่งทยอยออกมาจำนวนมาก และคาดว่าจะมีการทยอยออก TOR ต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งปีนี้บริษัทเองก็จะเข้าร่วมประมูลงานหลายโครงการมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท เช่นโครงการรถไฟรถไฟทางคู่ 9 สาย มูลค่า 4.25 แสนล้านบาท

*ลุยประมูลงานใหม่

ทั้งนี้โครงการถไฟทางคู่คาดว่าจะเห็นการประมูลเร็วสุด 2 สายคือโครงการถไฟทางคู่สายใหม่ เส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และโครงการสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ คาดว่าจะมีการเปิดประมูลได้ในช่วงกลางปีนี้

นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีแดง มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท โครงการขยายท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 มูลค่าการร่วมลงทุน 8.4 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นต้น ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะรับงานใหม่ ราว 2-3 หมื่นล้านบาท เพื่อมาสนับสนุนงานในมือ (Backlog) ให้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 2.7 หมื่นล้านบาท โดย Backlog ดังกล่าวจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงระยะ 2-3 ปี

“ปีนี้งานของภาครัฐก็น่าจะออกมาต่อเนื่อง น่าจะไม่ต่ำกว่าปีก่อนแม้ว่างบประมาณจะล่าช้าบ้าง แต่น่าจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งปีนี้ก็อาจจะมีปัจจัยหลายเรื่อง อย่างโควิด-19 แต่เชื่อว่าน่าจะไม่กระทบต่อบริษัทมากนัก แม้ว่าบริษัทจะมีแรงงานที่เป็นต่างชาติ แต่ยังไม่เห็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ “แหล่งข่าว กล่าว

*รายได้ปีนี้ 1.2หมื่นล้าน

ขณะที่รายได้ปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2562 โดยในปีนี้บริษัทจะไม่ได้มีการลงทุนขนาดใหญ่ มีเพียงค่าก่อสร้างที่ดำเนินการในระดับปกติ แต่มีแผนออกหุ้นกู้ในช่วงกลางปี เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหลังจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยมีการปรับตัวลดลง ทำให้เป็นจังหวะดีที่จะมีการระดมทุนเพิ่ม ซึ่งหากมีการออกหุ้นกู้ใหม่คาดว่าต้นทุนการเงิน(Cost of Debt) จะต่ำกว่าระดับเดิมที่ราว 3-5%

นอกจากนี้บริษัทมีการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจากกำไรสุทธิ ณ วันที่ 31ธันวาคม 2562 ในอัตรา 0.27 บาทต่อหุ้น เป็นเงินจำนวน 291,874,388.31 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 1 เมษายน 2563 และกำหนดจ่ายในวันที่15 พฤษภาคม 2563

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง UNIQ ว่า UNIQ มีงานในมือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท และ กำลังจะเซ็นสัญญาในปีนี้ คือ โครงการรถไฟไทย-จีน สัญญา 4-6 มูลค่าประมาณ 9.4 พันล้านบาท (ประมูลต่ำกว่าราคากลาง 11,240 ล้านบาท) จะทำให้งานในมือเพิ่มเป็น 2.4 หมื่นล้านบาท สามารถรองรับรายได้ประมาณสองปี สำหรับโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่ชำระหนี้ล่าช้า คาดจะมีการชำระหนี้ได้เป็นส่วนใหญ่ใน ไตรมาส 3/2562 จะทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง ส่วนโครงการรถไฟไทย-จีน ประมูลต่ำกว่าราคากลางถึง 16% คาดจะกดดันกำไร 

ปรับประมาณการลดลง ประเมินรายได้ปี 2563 เท่ากับ 11,000 ล้านบาท ลดลง 8.6% และ คาดจะมีกำไรสุทธิ 625 ล้านบาท ลดลง 14% ประเมินราคาเป้าหมาย 8.50 บาท บนฐาน10ปี Average P/E = 15x และ ได้ประกาศจ่ายปันผล 0.27 บาท มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.3%