ทันหุ้น –TK เผยภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้สรุปดีลซื้อกิจการไมโครไฟแนนซ์ในเมียนมา หวังดันพอร์ตสินเชื่อต่างประเทศเติบโต จากปัจจุบันสัดส่วนลูกหนี้อยู่ที่ 18% ยอมรับสินเชื่อรวมปีนี้ลดลงจากปีก่อน ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ชะลอ จากผลกระทบโควิด-19 ปีนี้เน้นบริหารภายในนำดิจิทัลเข้ามาช่วยบริหาร คุม NPL ไว้ที่ 4.5%

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจปีนี้ยอมรับว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Loan) จะลดลงจากปีก่อน ขณะที่พอร์ตสินเชื่อรวมน่าจะลดลงด้วย จากภาพรวมตลาดรถยนต์ที่คาดว่าจะติดลบ 6-7% และตลาดรถจักยานยนต์ที่คาดว่าจะติดลบ 1%

แต่การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นคาดการณ์ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้หากพิจารณาภาพรวมตลาดในช่วง 2เดือนกว่าที่ผ่านมาพบว่าภาพรวมตลาดชะลอตัวไป การปล่อยสินเชื่อลดลง ความสามารถในการชำละหนี้เริ่มเห็นสัญญาการจ่ายหนี้ที่ช้าลงและเห็นการผิดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ดีเป้าหมายแผนธุรกิจต่างๆ ยังคาดการณ์ได้ยากจากสถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆ แต่บริษัทได้มีการบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

*คุม NPL ใกล้เคียง 4.5%

รวมไปถึงการดิจิทัลเข้ามาใช้ให้การบริการจัดการภายในมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดต้นทุนการดำเนินงานและพยายามควบคุมคุณภาพลูกหนี้ และมีการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ใกล้เคียงที่ระดับ 4.5%

อย่างไรก็ดี แม้ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อในประเทศอาจจะลดลง แต่ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อในต่างประเทศยังเห็นการเติบโตที่ดี โดยปี 2562 ยอดปล่อยสินเชื่อเติบโตได้ 20%คาดว่าปีนี้จะยังเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น โดยในปีนี้กัมพูชาบริษัทมีสาขาราวทั้งสิ้น 12 สาขา ลาวมีสาขาทั้งสิ้น 3 สาขา และในเมียนมามีการเปิดสาขา 1 สาขา แต่ยังมีแผนจะเปิดสาขาอีก 2 สาขา ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการไมโครไฟแนนซ์ในประเทศเมียนมา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในเดือนมีนาคม 2563 นี้

*เกณฑ์ IFRS9 ไม่กระทบ

“สำหรับสถาการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ทั้งโควิด-19 สงครามน้ำมัน ส่งออกทำให้ภาพรวมเป้าหมายปีนี้ประเมินได้ยากมาก แต่โดยรวมก็คาดว่าสินเชื่ออาจจะลดลง ตามภาพรวมตลาดเพราะปีที่ผ่านมาGDP ยังเติบโต2% แต่ปีนี้น่าจะต่ำกว่า 2% ซึ่งบริษัทต้องมีการบริหารจัดการดิจิทัลเข้ามาบริหารจัดการภายในมากขึ้นเพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพลดต้นทุน” นายประพล กล่าว

สำหรับการบังคับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/2563มองว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากเกณฑ์ใหม่ในเรื่องของการเพิ่มสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เล็กน้อย จากสิ้นปีก่อนที่ 4.5%เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีการตั้งสำรองไว้ในระดับที่สูงเกือบ 200% รองรับไว้เรียบร้อยแล้วและได้ให้ผู้ตรวจสอบบัญชีเข้ามาบริหารจัดการบัญชีของบริษัทให้เป็นไปตามเกณฑ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้การปรับเปลี่ยนรูปแบบบัญชีจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีสำคัญ

*เคาะราคาที่ 9.70 บาท

ด้านบริษัท หลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุถึง TK ว่าแม้ตัวเลขพอร์ตสินเชื่อจะมีการชะลอตัวลงบ้างในปี 2562 อย่างไรก็ตาม NIM ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยหนุนกำไรสุทธิทั้งปี 2562 เติบโตขึ้นจากปี 2561 ถึง 23.8% นอกจากนี้มองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงมาจนมี Upside ที่น่าสนใจ จึงปรับคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 9.70 บาท อิงค่า PBV ที่ 0.95 เท่า