ทันหุ้น – สู้โควิด – MGT คาดยอดขายบริษัทลูก “เมกาเคมพลัส” ปีนี้พุ่งขึ้นเท่าตัว หลังเอทานอลซึ่งเป็นส่วนผสมเจลล้างมือขายดิบขายดี เล็งนำเข้าสินค้าที่สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 มาจำหน่ายเพิ่ม คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ ด้านผู้บริหารเชื่อผลงานไตรมาสแรกสดใส ตั้งเป้ายอดขายปีนี้แตะ 950 ล้านบาท โบรกแนะ ซื้อ“ เป้า 2.66 บาท
ดร.วิทยา อินาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGT เปิดเผยว่าแนวโน้มยอดขายบริษัทย่อย หรือบริษัท เมกาเคมพลัส คาดจะมีเติบโตได้ในระดับดี โดยเฉพาะการนำเข้าเอทานอลจากต่างประเทศ เข้ามาจำหน่ายในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันความต้องการใช้เอทานอลเพื่อนำมาเป็นส่วนผสมเจลล้างมือ สเปรย์ฆ่าเชื้อมีความต้องการมาก ทั้งนี้ในเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคม บริษัทมีคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) แล้วตั้งแต่ 1 หมื่นลิตรไปจนถึง 1 แสนลิตร โดยในปีก่อนมีการนำเข้าเอทานอลที่ 3-4 ล้านลิตรต่อปี คาดปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน
เอทานอลขายดี
ทั้งนี้บริษัทคาดความต้องการใช้เอทานอล เพื่อเป็นส่วนผสมเจลล้างมือ สเปรย์ฆ่าเชื้อจะเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นบริษัทจะนำเข้าเอทานอลมารองรับความต้องการของลูกค้าให้เพียงพอ นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการนำส่วนผสม หรือเอทานอลชนิดอื่นๆ ที่สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 เข้ามาจำหน่ายจากทั้งสหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ คาดจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้ พร้อมกันนี้บริษัทคาดทิศทางยอดขายของ บริษัท เมกาเคมพลัส มีโอกาสจะเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากต้นปี 2563 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 150 ล้านบาท
ขณะที่ทิศทางผลประกอบการไตรมาส 1/2563 คาดจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยใน 2 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการจำหน่ายเอทานอล จากบริษัท เมกาเคมพลัส ส่วนทั้งปี 2563 บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 950 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขายจากบริษัท เมกาแคม (ประเทศไทย) ราว 700-750 ล้านบาท ยอดขาย บริษัท เมกาเคมพลัสราว 150 ล้านบาท และจากยอดขายอื่นๆ ที่ 50 ล้านบาท
คืบหน้าผนึกพันธมิตร
ในส่วนของความคืบหน้าของโครงการผลิตกราไฟต์ หรือการร่วมมือกับพันธมิตรญี่ปุ่น ปัจจุบันได้สรุป MGT มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 49% และส่วนที่เหลือคือพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น 51% ปัจจุบันบริษัทได้ชะลอแผนการร่วมมือไปก่อน เนื่องจากประสบปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้พันธมิตรไม่สามารถเดินทางมาร่วมมือในการดำเนินธุรกิจได้ อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้ยกเลิกแผนการร่วมมือ แต่อยู่ระหว่างรอความชัดเจนหลังโรคระบาดโควิด-19
ด้านบริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2563 ยังเติบโตต่อเนื่อง จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Heat transfer เพื่อขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ตลาดน้ำมันสังเคราะห์ และรุกขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยความคืบหน้าของโครงการผลิตกราไฟต์กับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น (MGT ถือหุ้น 49%) คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในครึ่งปีหลังปี 2563 (ยังไม่รวมในประมาณการ)
เคาะกำไร 75.6 ล.
สำหรับประเด็นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้สินค้าจากประเทศจีนหายไปจากตลาดค่อนข้างมาก จึงมีการติดต่อเพื่อใช้สินค้าของบริษัทมากขึ้น โดยบริษัทได้นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น อินเดีย และรัสเซียทดแทนสินค้าจากจีน คาดรายได้ปี 2563 ที่ระดับ 783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนและคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 เท่ากับ 75.6 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5.7% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน
MGT ได้พยายามแสวงหาการเติบโตในตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นกลยุทธ์ร่วมทุนกับต่างประเทศเป็นหลัก ประเมินราคาเหมาะสมอิงค่าเฉลี่ย PER ที่ 14 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 2.66 บาท โดยมี Upside จากปัจจุบันราว 84.7% พร้อมคาด Dividend Yield ปี 2563 ราว 6.9% คงคำแนะนำ "ซื้อ"
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม