> SET > NER

27 มีนาคม 2020 เวลา 08:00 น.

NERออเดอร์พร้อมส่ง จ่อเซ็นลูกค้าเพิ่ม2ราย

ทันหุ้น-สู้โควิด-NER เผยออเดอร์ครึ่งปีแรก2563 พร้อมส่ง 1.3 แสนตัน แย้มเดือนมิ.ย.เตรียมเซ็นสัญญาลูกค้าระยะยาวอีก 2 ราย ยืนยันขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ยังสามารถส่งสินค้าได้ปกติ หวังจีนกลับมาเริ่มผลิตในช่วงไตรมาส3/2563นี้ ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนรอความชัดเจนจากภาครัฐขณะนี้มีความพร้อมทุกด้าน


นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศเปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในขณะนี้บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกิจกรรมการขนส่งยังเดินหน้าได้ โดยตลาดจีนนั้นบริษัทมองว่าน่าจะกลับมาเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส3/2563และคาดว่าจะผลิตได้ 100% ในช่วงไตรมาส 4/2563 ซึ่งปัจจุบันตลาดจีนคิดเป็น40% ของสัดส่วนการส่งออกแต่ทั้งนี้ตลาดที่ต้องติดตามคือยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ขณะนี้


มาตรการรองรับเข้มงวด


นอกจากนี้บริษัทมีการบริหารจัดการภายในบริษัทอย่างเข้มงวด เช่นโรงงานซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยสูงมาก มีการคัดกรองทุกวัน มีการทำอุโมงฆ่าเชื้อให้พนังงานได้ทำการฆ่าเชื้อทุกวัน รวมไปถึงการฉีดฆ่าเชื้อในโรงงานด้วย ทำให้โรงงานของบริษัทยังดำเนินการได้ตามปกติและมีความปลอดภัยอย่างมาก ส่วนพนักงานออฟฟิตบางส่วนก็มีนโยบาย Work from home เรียบร้อยตามนโยบายของทางภาครัฐ แต่ทั้งนี้บริษัทก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


สำหรับการส่งมอบออเดอร์ของบริษัทในช่วง2 ไตรมาสแรกของปี นั้นยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะมียอดส่งสินค้าราว 1.3 แสนตัน ซึ่งบริษัทยังส่งมอบสินค้าได้ปกติ ส่วนเป้าหมายทั้งปีที่คาดการณ์ไว้ว่าจะส่งมอบออเดอร์ที่ 4แสนตัน อาจจะมีการทบทวนหลังจากจบเดือนเมษายนนี้ อย่างก็ดีบริษัทยังเจรจากับลูกค้าต่อเนื่อง คาดว่าในช่วงเดือนมิถุนายนนี้จะมีการเซ็นสัญญาลูกค้าใหม่ 2 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าสัญญาระยะยาว(Long term contract)1 ปี ซึ่งจะมาช่วยหนุนผลออเดอร์ของบริษัทได้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบันบริษัทมีลูกค้าสัญญาระยะยาว11 ราย


ลุยเดินหน้าโครงการ


สำหรับราคายางขณะนี้อาจจะมีลดลงมาบ้าง โดยราคายางแผ่นลดลงมาอยู่ที่ 40 บาทต่อกิโลกรัมจากก่อนหน้านี้ที่ 45 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคายางที่ลดลงมาบ้างก็เป็นไปตามสภาวะตลาด แต่บริษัทก็พยายามที่จะเพิ่มโปรดักส์ใหม่ โดยล่าสุดได้มีการทดลองทำแผ่นปูนอนของสัตว์ ซึ่งในเดือนเมษายนนี้จะมีการส่งให้กลุ่มสหกรณ์ได้มีการทดสอบ ซึ่งหากผลตอบรับไปได้ดีคาดว่าจะมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง


ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชน ขณะนี้รอทางภาครัฐในเรื่องของความชัดเจนในการดำเนินการ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในทุกด้านซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขในการเข้าประมูลอยู่แล้ว โดยเบื้องต้นคาดหวังว่าจะมีส่วนเข้าไปร่วมในโครงการ 8 เมกะวัตต์ ในกลุ่มควิก วิน(Quick win)ซึ่งเป็นโครงการกลุ่มแรกที่มีความพร้อมในการดำเนินการ อีกทั้งสนใจที่จะทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA)จำนวน 35-40 เมกะวัตต์ ภายใน 2 ปีข้างหน้า คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ3-4 พันล้าน และหากเป็นไปตามแผนจะส่งผลให้ยอดขายจากธุรกิจไฟฟ้าอยู่ที่ 10% โดยเป็นมาร์จิ้นของธุรกิจไฟฟ้าประมาณ 20%


ส่วนราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมองว่าเป็นไปตามสภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบัน โดยส่วนตัวก็มีการเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม ซึ่งมองว่าราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวลดลงแรงต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่ควรจะเป็น และบริษัทก็ยังเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัท นอกจากนี้ก็มีการจ่ายปันผลอย่างส่ำเสมอ ล่าสุดคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติจ่ายเงินปันผล 14สตางค์ต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 42.12%ของกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 538.88ล้านบาท ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิ (Record date) วันที่ 30 เมษายน 2563และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2563


อีกทั้งมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563พิจารณาอนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (วอร์แรนต์) ครั้งที่ 1 (NER-W1) จำนวนไม่เกิน 308 ล้านหน่วย แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น อัตราส่วน 5ต่อ 1 ฟรี โดยมีราคาแปลงสิทธิ 1.80 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิ (Record date) วันที่ 30 เมษายน 2563และกำหนดจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X