ทันหุ้น – สู้โควิด – TPS ลุยติดตั้งระบบ Work From Home และ Video Conference ให้ลูกค้า เชื่อหลังจบการแพร่ระบาดโควิด-19 สามารถทำรายได้ในอนาคต แย้มอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่ 100 ล้านบาท คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ โชว์เงินสดในมือ 170 ล้านบาทพร้อมรับงานเพิ่ม

นายเมธี วิธวาศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานปฏิบัติการ บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการติดตั้งและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้สำหรับ Work from home และระบบ Video Conferenceให้กับลูกค้า ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้จะสามารถทำรายได้ในอนาคต

รับทรัพย์ในอนาคต

“คาดหลังจบสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ลูกค้าจะกลับมาซื้อโซลูชั่นหรือระบบเทคโนโยลีสารสนเทศมากขึ้น หลังจากผู้ประกอบการหลายรายอนุญาตให้พนักงานสามารถ Work from home ได้ รวมถึงทิศทางการใช้ระบบวีดีโอ Conference ซึ่งเราทำการซัพพอร์ตลูกค้า คาดรายได้จากการทำระบบตรงนี้จะเกิดเมื่อจบสถานการณ์โควิด-19 ลูกค้าน่าจะสนใจใช้ระบบที่เราซัพพอร์ตให้” นายเมธีกล่าว

ทั้งนี้บริษัทประเมินทิศทางรายได้ไตรมาส 1/2563 อาจจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากปีก่อนบริษัทส่งมอบงานใหญ่ได้ในช่วงไตรมาส 1 ขณะที่ปีนี้บริษัทไม่มีโปรเจ็กต์ใหญ่ในการส่งมอบ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทคาดทิศทางมาร์จิ้นในไตรมาส 1/2563 น่าจะอยู่ในระดับที่ดี และสูงกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน เพราะบริษัทพยายามควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย และเพิ่มยอดขายให้มากที่สุด

แบ็กล็อก 200 ล.

โดย ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีงานในมือ หรือ Backlog อยู่ราว 200 ล้านบาท และในไตรมาส 1/2563 บริษัทรับงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 150 ล้านบาท คาดงานในมือทั้งหมดจะถูกรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้เกือบทั้งหมด

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่จากทางราชการมูลค่าราว 100 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันคาดว่ากลุ่มงานราชการจะเร่งใช้งบประมาณ ทำให้บริษัทคาดต่อจากนี้จะมีงานราชการออกมาให้ประมูลอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มงานเอกชนในระยะนี้อาจชะลอตัว เนื่องจากผู้ประกอบการเอกชนอยู่ระหว่างจับตาดูสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 แต่บริษัทคาดว่างหลังสถานการณ์คลี่คลาย ภาคเอกชนจะกลับมาฟื้นฟูธุรกิจ และขยายระบบเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม และท่องเที่ยว เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทมีกระแสเงินสดในมือ 170 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการรับงานใหม่

ดันรายได้โต 40%

บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2563 เติบโต 30-40% ต่อจากปี 2562 ที่ 642.26 ล้านบาท สำหรับการเติบโตในปี 2563 จะมีจากการขายสินค้าให้กับลูกค้าใหม่บ้าง และการรักษาฐานลูกค้าเก่าคาดสัดส่วนรายได้จากงานราชการในปี 2563 จะเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 50-60% จากปี 2562 คาดอยู่ที่ 30% ส่วนภาคเอกชนคาดจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40-50% ตามอุตสาหกรรม ซึ่งภาคเอกชนชะลอตัว ตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน

อนึ่ง บริษัทประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง จำหน่ายอุปกรณ์ และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงบริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย โดยการนำเสนอโซลูชั่นให้กับลูกค้า แบ่งได้เป็น 6 ประเภทคือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์พื้นฐาน, ระบบการเชื่อมต่อสื่อสารแบบไร้สาย,ระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่าย, ระบบสื่อสารแบบครบวงจร, ระบบศูนย์ข้อมูล และระบบจัดการและบริหารเครือข่าย บริษัทเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้าชั้นนำ อาทิ Cisco, NetApp, Palo Alto Networks, Symantec, VMware และ Fortinet บริษัทฯ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Cisco เป็นหลัก