> mai > NETBAY

02 เมษายน 2020 เวลา 10:04 น.

NETBAYรับทรัพย์หลังโควิด เชื่อแห่ใช้ดิจิตอลแพลตฟอร์ม

ทันหุ้น – สู้โควิด – NETBAY เผยหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จบ เชื่อการใช้บริการผ่านดิจิตอลแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นทุกธุรกิจด้านบอสใหญ่ “พิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์”ลั่นมีความพร้อมให้บริการลูกค้าใหม่ในอนาคต เล็งปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้อง และพยายามรักษาฐานมาร์จิ้นในระดับ 80%


นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY บริษัทแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยี(Innovative Technology Company) และผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Digital & FinTech Innovative Technology Platform เพื่อให้บริการด้าน Digital Business Services อย่างครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทประเมินทิศทางลูกค้าหรือผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และอาจจะส่งผลต่อการใช้บริการดิจิตอลแพลตฟอร์ม แต่หลังสถานการณ์โรคระบาดจบลง คาดทิศทางการใช้บริการผ่านดิจิตอลแพลตฟอร์มจะเพิ่มขึ้นจากทุกธุรกิจและทุกเซกเตอร์


พร้อมบริการลูกค้าใหม่

พร้อมกันนี้บริษัทมีความพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าใหม่ในอนาคต เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ซึ่งในอนาคตบริษัทคาดลูกค้าจะใช้เอกสารผ่านทางออนไลน์ หรืออิเล็กทรอนิกส์ เพย์เมนต์ มากขึ้น ทั้งนี้บริษัทไม่จำเป็นต้องใช้เงินสดในการลงทุนมากนัก แต่ต้นทุนหลักของบริษัทคือกำลังคน


อย่างไรก็ตามบริษัทขอดูทิศทางธุรกิจและภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 1/2563 ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร จึงจะกำหนดทิศทางการดำเนินงานช่วงที่เหลือได้ โดยช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อน 422.22 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตเป็นไปตามการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น หลังจากบริษัทเอกชนมีความต้องการปรับปรุงเทคโนโลยีมากขึ้นเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมองว่าผู้ประกอบการกว่า 95% ในไทยยังคงดำเนินงานด้วยระบบ Analog จึงประเมินทิศทางธุรกิจของบริษัทยังสามารถเติบโตไปได้อีกมาก


รักษาฐานมาร์จิ้น

และบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin) และอัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 80% และ 40% ตามลำดับ จากการขยายฐานลูกค้าและควบคุมค่าใช้จ่ายในองค์กร ทั้งนี้บริษัทจะพยายามเข้าไปเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อเชื่อมต่อเข้าเป็นแพลตฟอร์มเดียวกัน โดยการบริการของบริษัทจะช่วยให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายของลูกค้าลดลง รวมถึงการทำงานรวดเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ส่วนความร่วมมือกับบริษัท ฟินเน็ต เวนเจร์ส จำกัด เพื่อดำเนินการในเรื่องของนวัตกรรมเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) สำหรับการค้าระหว่างประเทศและในประเทศ โดยบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 60% คาดว่าภายในปีนี้จะสามารถให้บริการในเรื่องดังกล่าวได้ ซึ่งจะมุ่งไปยังกลุ่มธุรกรรมทางการเงิน และเอกสารทางการเงิน


นายพิชิต กล่าวต่อว่า บริษัทจะพยายามขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มอื่นๆ อาทิ สถาบันทางการเงิน ไฟแนนซ์ เช่าซื้อ มากขึ้น หลังจากบริษัทขยายฐานแล้วช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและมีกระแสตอบรับค่อนข้างดี ปัจจุบันฐานลูกค้าเกือบ 100% มาจากลูกค้าภาคเอกชน สำหรับธุรกิจ Digital Business Services เป็นการรวมกลุ่มบริการเดิม ได้แก่ e-business Service และ e-Trade Finance Supply Chain รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการให้บริการเรื่องเดียวกัน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X