ทันหุ้น - CPW ปรับกลยุทธ์รับมือโควิด 19 โยกพนักงานบางส่วนทำงานที่บ้าน หวังป้องกันความเสี่ยง พ่วงรุกขายสินค้าผ่านออนไลน์ เปิดช่องรับทรัพย์เพิ่ม บิ๊ก "ปรเมศร์" เดินหน้าผุด 6 สาขาใหม่ ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม

นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท คอปเปอร์ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด 19 (COVID 19) ที่เกิดขึ้นนั้นบริษัทได้มีการปรับแนวทางการบริหารจัดการภายในองค์กร โดยเบื้องต้นได้มีการให้พนักงานบางส่วนเริ่มทดลองทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทาง

พร้อมทั้งช่วงที่ผ่านมาสาขาของบริษัทภายในห้างสรรพสินค้าทำเลต่างๆ ได้มีการปิดชั่วคราว ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการอำนวยการศูนย์โควิด-19 สั่งปิดห้างสรรพสินค้า ตลาดทั่วกทม เป็นการชั่วคราวนั้นโดยบริษัทหันมาจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม ได้แก่ www.istudio.store, www.dotlife.store เพื่อขยายช่องทางสร้างรายได้ให้กว้างขึ้น และสนับสนุนยอดขายของธุรกิจอีกทางหนึ่ง

“ในช่วงที่ผ่านตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เราได้มีการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการขายสินค้าในรูปแบบออนไลน์มาแล้วพอสมควร ดังนั้นเมื่อพอถึงเวลาที่จะต้องการทำตลาดผ่านช่องทางดังกล่าวมากขึ้น จึงเชื่อว่าด้วยศักยภาพของพนักงานและธุรกิจน่าจะสามารถตอบสนองความลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายปรเมศร์กล่าว

เจาะฐานลูกค้าใหม่

ขณะที่ในปี 2563 บริษัทยังมีแนวคิดเปิดสาขาใหม่ๆ เพิ่มเติมภายใต้แบรนด์ต่างๆ ได้แก่ ร้าน.life, Apple Brand Shop เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และสนับสนุนการเติบโตของยอดขายและการเข้าถึงแบรนด์ของธุรกิจอย่างมั่นคงในอนาคตต่อไป

อย่างไรก็ดี ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีร้านค้าปลีกภายใต้การบริหารงานจำนวน 42 สาขา ประกอบด้วย ร้าน .life (ดอทไลฟ์) จำนวน 21 สาขาร้าน Apple Brand Shop จำนวน 15 สาขา (แบ่งเป็น iStudio by copperwiredจำนวน 13 สาขา U-store by copperwiredจำนวน 1 สาขาและ Ai_จำนวน 1 สาขา)และศูนย์บริการ iServeจำนวน 6 สาขา จาก ณ สิ้นปี 2561 มีจำนวน 39 สาขา ส่วนงบการเงินปี 2562 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ) บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 3,607.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 380.10 ล้านบาท คิดเป็น 11.78% เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการ ซึ่งมีสัดส่วน 97.03% ของรายได้รวม และปรับเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 393.63 ล้านบาท

สาเหตุการเติบโตนั้นจากยอดขายของกลุ่มสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์และยอดขายของกลุ่มสมาร์ทโฟนที่เติบโตอย่างโดดเด่นขึ้น และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 77.55 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 4.87 ล้านบาท คิดเป็น 5.91% มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 14.77% และอัตรากำไรสุทธิ 2.15% มีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายเกี่ยวเนื่องกับการเปิดสาขาใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตและการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือช่องทางออนไลน์

นอกจากนี้บริษัทได้มีการเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสจาก 5G และสินค้าเทคโนโลยีด้าน IoTและอื่นๆ ที่บริษัทมุ่งขยายผ่านร้าน .life (ดอทไลฟ์) โดยมีการเปิดสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัย เนื่องจากยอดขายสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์มีอัตรากำไรที่ดีเมื่อเทียบกับสินค้ากลุ่มอื่น ประกอบกับ บริษัทย่อย บริษัท โคแอน จำกัด (KOAN) เพิ่มความแข็งแกร่งในการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กร ทำให้ CPW เป็นผู้นำธุรกิจสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่มีช่องทางจำหน่ายครอบคลุม มีจุดเด่นในเรื่องความหลากหลายของสินค้า จึงน่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1