ทันหุ้น – สู้โควิด - CMC ปรับกลยุทธ์สู้โควิด-19 เน้นระบายสต๊อค จากปัจจุบันมีสินค้าพร้อมโอน 2 พันล้านบาท เร่ง คุมต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย โชว์กระแสเงินสดในมือ 62 ล้านบาท เผยลุยทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์กระแสตอบรับดี

พร้อมปรับเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2.4 พันล้านบาท

นายวิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC เปิดเผยว่า หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจ รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลต่อการจ้างงาน ทำให้ลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย อีกทั้งสำหรับผู้ที่ซื้อลงทุนก็กระทบในส่วนของการปล่อยเช่า

เร่งระบายสต็อก

บริษัทประเมินผลกระทบดังกล่าวในระยะสั้นจะกระทบไปถึงไตรมาส 3/2563  ระยะกลางคือประมาณ 2 ปี และระยะยาวอาจะกระทบถึง 3-5 ปี บริษัทมจึงมีแผนปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยจะเน้นระบายสต๊อกสินค้า ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าพร้อมโอนอยู่ที่ 2 พันล้านบาท

ขณะเดียวกันในแง่ขององค์กร บริษัทจะควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด โดยการลดการใช้สื่อที่ไม่จำเป็นออกไป และคุมค่าใช้จ่ายที่เกินจำเป็น นอกจากนี้บริษัทได้เจรจากับผู้รับเหมา เพื่อให้ได้ราคาและประโยชน์ที่เหมาะสมทั้งสองฝ่าย ประกอบกับบริษัทจะบริหารเงินสดในมือ เพื่อให้มีสภาพคล่องต่อการดำเนินธุรกิจ สำหรับสิ้นปี 2563 บริษัทมีกระแสเงินสดในมืออยู่ราว 62 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ในบางโครงการขนาดไม่ใหญ่ และเน้นพัฒนาโครงการในทำเลที่บริษัทเชี่ยวชาญ

ส่วนโครงการขนาดใหญ่บริษัทเลื่อนเปิดโครงการออกไปจนกว่าสถานการณ์ภายในประเทศจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยจะทบทวน และประชุมแผนทุกไตรมาสนอกจากนี้บริษัทมีแผนจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพิ่มขึ้น จากเดิมเน้นพัฒนาโครงการแนวสูง หรืออาคารชุดเป็นหลักกว่า 90% เนื่องจากบริษัทมีที่ดินรอพัฒนาหลายแปลง

คาดรายได้ฉลุย

ทั้งนี้บริษัทได้ดำเนินการทางการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก และได้ผลตอบรับดี แต่ยังไม่ส่งผลในแง่รายได้มากนัก เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว สำหรับแผนการรับรู้รายได้ปี 2563 บริษัทปรับเป้ารับรู้รายได้ลดลงเหลือ 2.4 พันล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 2.7 พันล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทย่อยภายใต้บริษัทไทยสยามนคร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จะพยายามรับงานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องมากขึ้น ทั้งรัฐวิสาหกิจและงานราชการเพื่อให้รายได้ครอบคลุมและเป็นไปตามเป้าหมาย

โดย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 2.12 พันล้านบาท จากทั้งหมด 29 โครงการประกอบไปด้วย โครงการพร้อมอยู่ 22 โครงการ และโรงการระหว่างการก่อสร้าง 7 โครงการ และมีโครงการรอเปิดอีก 7 โครงการ สำหรับโครงการจะก่อสร้างเสร็จและพร้อมกับรู้ในปีนี้คือโครงการ The Cuvee Tiwanonและ Bangkok Horizon lite @ Phetkasem 48อนึ่งปี 2562 บริษัทมีรายได้ 1.42 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24.14 ล้านบาท