> SET > TK

29 เมษายน 2020 เวลา 11:28 น.

TKจ่ายปันผล0.55บ.-ซื้อกิจการMFILในเมียนมา

ทันหุ้น - TK เผยมติการประชุมสามัญประจำปี 2563 อนุมัติการจ่ายปันผล 0.55 บาทต่อหุ้นพร้อมอนุมัติการเข้าซื้อกิจการของ เอ็มเอฟไอเอล (Myanmar Finance International Limited – MFIL) ผู้ให้บริการสินเชื่อในเมียนมา ชี้ราคาไม่เกิน 21,000 ล้านจ๊าด หรือไม่เกิน 450 ล้านบาท ลุยขยายกิจการแบบก้าวกระโดด


นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เผยว่าการประชุมสามัญประจำปี 2563 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลผู้ถือหุ้น 0.55 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 275 ล้านบาท หรือ Dividend Yield ณ วันปิดสมุดทะเบียน 12 มีนาคม 2563 ที่ 6.8% คิดเป็นสัดส่วน 54.5% ของกำไรสุทธิในปีที่ผ่านมา และมีมติอนุมัติการเข้าซื้อกิจการของ เอ็มเอฟไอเอล (Myanmar Finance International Limited) หรือ MFIL ผู้ให้บริการสินเชื่อในเมียนมา โดย บริษัท มิงกะละบา ฐิติกร ไมโครไฟแนนซ์ จำกัด บริษัทในเครือ TK ซึ่งได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการธุรกิจไมโครไฟแนนซ์เมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา ได้ทำสัญญาเข้าซื้อหุ้น MFIL ในสัดส่วน 100% ด้วยมองเห็นโอกาสการเติบโตที่น่าสนใจและผลประกอบการของธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ไมโครไฟแนนซ์ในเมียนมา ประกอบกับพิจารณาเห็นว่า MFIL จะสามารถเป็นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและช่วยเสริมเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของ TK ในภูมิภาคแถบนี้ ด้วยช่องทางการให้บริการที่อยู่ในเมืองสำคัญ ๆ ของเมียนมา


“การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะทำให้ TK สามารถดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ได้อย่างเต็มรูปแบบในหลายรัฐและครอบคลุมพื้นที่สำคัญ ๆ ในเมียนมา ซึ่งการขยายธุรกิจในเมียนมานี้เป็นไปตามแผนการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศของ TK โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 21,000 ล้านจ๊าดหรือไม่เกิน 450 ล้านบาท ในดีลดังกล่าว และกระบวนการซื้อกิจการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปีนี้ 2563 นี้ ซึ่งจะทำให้ TK มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 7% และทำให้สัดส่วนสินเชื่อต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของสินเชื่อทั้งหมดจากปัจจุบันที่ 17%” นางสาวปฐมากล่าว


ฐานธุรกิจ-การเงินแกร่ง


ทางด้าน นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบกับผลการดำเนินงานของ TK และไม่กระทบต่อการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เนื่องจากเงินที่ใช้ในการลงทุนจะใช้แหล่งเงินจากกระแสเงินสดและกำไรจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งเพียงพอรองรับการทำธุรกรรมดังกล่าวโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ทั้งนี้ ในด้านการบริหารจัดการธุรกิจที่เมียนมา จะยังคงใช้ทีมบริหารยังเป็นชุดเดิมของ MFIL โดยที่ทาง TK จะเข้าไปนั่งในตำแหน่งที่สำคัญ ๆ ในระยะแรกเท่านั้น

การซื้อกิจการครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวย่างสำคัญสำหรับการเติบโตแบบ inorganic growth โดย TK มีกลยุทธ์ที่จะขยายธุรกิจในต่างประเทศและเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรในระยะกลาง-ยาว ขณะที่ลูกค้าของ MFIL ทั้งหมดเป็นรายย่อย ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับของ TK ซึ่งจะช่วยเสริมกันและกัน โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่มีอยู่ในการขยายการลงทุน และจะเป็นฐานธุรกิจสำคัญ โดยเฉพาะตลาดเมียนมาที่ต้องอาศัยการเจาะตลาดท้องถิ่นที่มีวัฒนธรรมแตกต่างจากไทยอยู่พอสมควร นายประพลกล่าว


“ตลาดเมียนมาถือว่าเติบโตรวดเร็วที่สุดในภูมิภาค โดย MFIL มีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 70,000 ราย ในรัฐสำคัญ ๆ ที่รัฐบาลเมียนมาเข้มงวดในการออกใบอนุญาตให้ดำเนินกิจการดังกล่าว และ ณ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นขอขยายสาขาเพิ่มในรัฐอื่น ๆ อีก เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการให้มากขึ้นต่อไปในอนาคต สอดคล้องกับการเจริญเติบโตที่จะเกิดขึ้น เมียนมามีประชากรกว่า 53 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับประเทศไทย ขณะที่อัตราการเข้าถึงบริการของสถาบันการเงินนั้นถือว่ายังน้อย คืออยู่ที่ 20-30% เทียบกับประเทศไทยอยู่ที่เกือบ 100% ทำให้ตลาดเมียนมาอยู่ในช่วงการเติบโต ธุรกิจสถาบันการเงินของเมียนมายังมีโอกาสให้ขยายจำนวนฐานลูกค้าได้อีกมาก ขณะที่ตลาดไทยมีการแข่งขันสูง แม้ว่า MFIL ตอนนี้กำไรจะยังไม่มาก แต่อนาคต ในเรื่องศักยภาพในการขยายธุรกิจสูงมาก ซึ่ง TK ได้เล็งเห็นโอกาสและได้เริ่มไปเปิดธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เป็นเวลา 6 ปีแล้ว” นายประพล กล่าวสรุป


เดินหน้าขยายสาขา


ทั้งนี้ TK ยังคงเดินหน้าบริหารธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ ด้วยกลยุทธ์ที่จะขยายธุรกิจในต่างประเทศและเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคมากขึ้น ทั้งการขยายสาขาในประเทศที่ดำเนินกิจการอยู่ และการขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศใหม่ ๆ ในทุกรูปแบบของการลงทุนเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง


อนึ่ง MFIL เป็นหนึ่งในบริษัทไมโครไฟแนนซ์ที่มีชื่อเสียงในเมียนมา ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแล บริษัทก่อตั้งในปี 2557 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 13 สาขา มีฐานลูกค้าประมาณ 70,000 ราย ครอบคลุมรัฐที่สำคัญได้แก่ Yangon , Bago และ Mon รวมถึงมีแผนงานที่จะเปิดสาขาเพิ่มใน Ayeyarwady และ Mandalay นอกจากนี้ยังมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ดังนั้นการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้บริษัทสร้างโอกาสใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น พร้อมสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในตลาดที่มีความน่าสนใจและเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นการช่วยให้สามารถเพิ่มกำไรต่อหุ้น (EPS) และผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ของ ฐิติกร ได้ทันที โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 MFIL มีเงินให้สินเชื่อจำนวน 21,937 ล้านจ๊าด หรือเทียบเท่ากับ 439 ล้านบาท



อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X