ทันหุ้น - สู้โควิด - SUN โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 10.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เล็งอัพเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน 2563หลังยอดขายไตรมาสแรกพุ่งกระฉูด ส่งซิกไตรมาส 2/2563เติบโตดีกว่าไตรมาสแรก จากฤดูฝนหนุนผลิตได้มากขึ้น แถมคาดเงินบาทอ่อนค่า
ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปรายใหญ่ของประเทศภายใต้แบรนด์ “KC” เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 10.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาท หรือ 20.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.63 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเติบโตในไตรมาส 1/63 ที่ 40.8% และมีความสามารถในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดี
ไตรมาส 2/63 โตต่อ
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าการเติบโตในช่วงไตรมาสที่ 2/2563จะเติบโตดีกว่าไตรมาสแรกเนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ ส่วนไตรมาสที่ 2เป็นฤดูกาลที่มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอทำให้สามารถผลิตวัตถุดิบได้มากขึ้น และมีต้นทุนที่ลดลง รวมถึงแนวโน้มของค่าเงินบาทคาดว่าจะอ่อนตัวมากกว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท
ขณะที่บริษัทเตรียมปรับเป้าหมายรายได้ในปี 2563 จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตที่ 15- 20% ซึ่งหลังจากสถานการณ์โควิด-19ทำให้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ เนื่องจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค
“ช่วงที่ผ่านมาบริษัท มียอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากได้ลูกค้ารายใหม่เข้ามาซึ่งเป็นลูกค้าที่มีเสถียรภาพ และมีสัญญาการซื้อขายที่เป็นระยะยาว เข้ามาเพิ่มเติมจากจำนวนลูกค้าเดิมที่มีอยู่ และบริษัทยังได้ขยายตลาดไปยังยุโรปและตะวันออกกลางจึงเป็นตลาดใหม่ๆมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีความใกล้ชิดกับลูกค้าในประเทศต่างๆมากขึ้น เนื่องจากได้ใช้ระบบออนไลน์พูดคุยกับลูกค้าในทุกวัน ซึ่งพบว่ามีข้อดีในเรื่องของการบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำลงอีกด้วย” ดร.องอาจ กล่าว
กำลังผลิตต่อวัน
สำหรับกำลังการผลิตปัจจุบันต่อ 1 วัน (24ชั่วโมง)อยู่ที่ประมาณ 500 ตันต่อวัน ส่วนในช่วงหน้าแล้งบริษัทมีกำลังการผลิต 300-400ตันต่อวัน ซึ่งบริษัทเตรียมเพิ่มกำลังการผลิต สูงสุดอยู่ที่ 700ตันต่อวัน เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่จะเข้ามาเพิ่มเติม โดยเฉพาะในตลาดกลุ่มประเทศเอเชีย ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน นอกจากนี้บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตในส่วนแช่แข็งเป็น 1.5-2หมื่นตันต่อปี จากเดิมที่ 5 พันตันต่อปี รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อการผลิตสินค้าในสูญญากาศ
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้แก่กลุ่มลูกค้า ซึ่งกระจายอยู่มากกว่า 60 ประเทศ แบ่งเป็นลูกค้าเก่า 95% ลูกค้าใหม่ 5% ขณะนี้เริ่มมีออเดอร์ล่วงหน้ามากถึง 80%
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม