ทันหุ้น - RPH รุกฐานธุรกิจโรงพยาบาลดันรายได้ไตรมาส 1/2563 โต 5.36%  และมีกำไรสุทธิที่ 29.89 ล้านบาท รักษาอัตราการใช้พื้นที่เตียงนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันยืนเหนือ 60% มองผลงานโค้ง 2/2563 มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2563 ที่ 15 - 20% จากแนวโน้มการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็น

นายแพทย์ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 (1 ม.ค. - 31 มี.ค. 63) บริษัทมีรายได้รวมจากกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 215.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.36% จากเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 204.56 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น ด้านกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 29.82 ล้านบาท ลดลง 2.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 30.67 ล้านบาท

โดยสาเหตุหลักมาจากต้นทุนบุคลากร ต้นทุนยา เวชภัณฑ์และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งต้นทุนกิจการโรงพยาบาลในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 148.49 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเทียบรายได้รวมอยู่ที่ 67.73% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารในช่วงไตรมาสแรกปี 2563 นั้น อยู่ที่ 30.17 ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายในการบริหารคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 13.76% เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้รวม สำหรับต้นทุนทางการเงินในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 2.16 ล้านบาท รับตัวลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 2.75 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการชำระเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน

โค้ง2แววเด่น

ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2563 มองว่าจะมีการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนและเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการขยายพื้นที่ให้บริการที่มากขึ้นทำให้บริษัทมีความสามารถในการรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันอัตราการเข้าใช้บริการรักษาทางการแพทย์ปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับคนไข้เรื้อรังมีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ต่อเนื่อง ส่งผลให้ตอนนี้อัตราการใช้พื้นที่เตียง (Occupancy rate) เฉลี่ยอยู่สูงกว่า 60%

ขณะเดียวกันจากสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนในปัจจุบันทำให้ได้วางแผนบริหารจัดการความเสี่ยงรองรับแล้ว ทั้งเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนและทรัพยากรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจในน้อยที่สุด โดยตอนนี้บริษัทยังมีการจ้างบุคลากรทางการแพทย์เป็นปกติ และไม่ได้ให้พนักงานหยุดงานโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without Pay) แต่อย่างใด เพราะบริษัทมองว่าบุคลากรเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ อีกทั้งต้องเตรียมการให้พร้อมรองรับในกรณีที่วิกฤตครั้งนี้ถูกคลี่คลายและเศรษฐกิจกลับมาเติบโตได้เช่นเดิม

อัพฐานลงทุน

แม้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต กำลังซื้อ และสภาพเศรษฐกิจในประเทศในปัจจุบัน ซึ่งเป็นนโยบายการป้องกันการระบาดไวรัสของภาครัฐฯ แต่เชื่อว่าการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นเรื่องจำเป็นต่อการดำรงชีวิตอยู่ บริษัทจึงยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้เช่นเดิมที่ 15 - 20% จากปีก่อนที่ 830.26 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเติบโตที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก

ส่วนความคืบหน้าการขยายพื้นที่เตียงให้บริการเพิ่มจากปัจจุบันอยู่ที่ 171 ยูนิต เพิ่มเป็น 190 - 200 ยูนิต ในปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการขอในอนุญาตขยายพื้นที่เตียงให้บริการเพิ่ม เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการคนไข้ในการดูแลรักษาได้มากขึ้น เนื่องจากอัตราการขยายตัวของประชากรในจังหวัดขอนแก่นมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงกลางปี 2563 ทั้งนี้ ภายหลังการได้รับอนุมัติแล้ว บริษัทอาจเลือกเปิดให้บริการพื้นที่เป็นบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1