ทันหุ้น - สู้โควิด - SCI ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2563 มีรายได้รวม 278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากงวดเดียวกันปีก่อน และพลิกกลับมากำไร 14.14 ล้านบาท โดยทยอยรับรู้งานในมือที่มีอยู่แล้วกว่าพันล้านบาท ฟากบอสใหญ่"เกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล"พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานภาครัฐ เพื่อผลักดันการเติบโตปีนี้อย่างมีเสถียรภาพ และสามารถรับมือกับผลกระทบของวิกฤติโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2563 พลิกกลับมากำไร 14.14 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 20.87 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้รวม 278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมเท่ากับ  215 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog)

ล่าสุดมีงานในมือที่สามารถรับรู้รายได้ในระยะยาว มูลค่ารวมอยู่ที่พันล้านบาท โดยสัดส่วนของงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน แบ่งเป็นงานประเภทต่าง ๆ ประกอบด้วย งานที่ผลิตในประเทศ อย่างตู้สวิตช์บอร์ด รางเดินสายไฟ เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและสถานไฟฟ้า รวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างสะพานรถไฟ เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัทฯได้ขยายธุรกิจงานรับเหมาในประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้มากขึ้นอีกด้วย ขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศ ทั้งประเทศเมียนมา และลาว คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากปีก่อน

"ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีนี้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ และแนวโน้มไตรมาส 2/63 คาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นได้ต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาบริษัทฯได้ชนะการประมูลงานโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้า จังหวัดอุบลราชธานี มูลค่าโครงการรวม 177 ล้านบาท โดยมีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นเจ้าของโครงการ และมีระยะเวลาในการก่อสร้าง 24 เดือน ซึ่งจะมีการทยอยรับรู้รายได้ และจะช่วยผลักดันให้มีการเติบโตในระยะยาว"

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2563 นั้นน่าจะเป็นปีที่ดี และมีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ขณะที่ตั้งเป้าจะประมูลงานใหม่เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯมีรายได้ที่เติบโตขึ้น

สำหรับการที่เศรษฐกิจในประเทศไทยจะชะลอตัว เนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 นั้น บริษัทฯมั่นใจว่า จะสามารถผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ เนื่องจากงานส่วนใหญ่ของบริษัทฯที่ยื่นประมูลเป็นงานของภาครัฐกว่า 80% และเป็นงานโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีความจำเป็น รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ดังนั้นบริษัทฯ คาดว่ารัฐบาลจะยังคงมีการเปิดประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมพร้อมในทุกด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับงานใหม่เพิ่มเติมอย่างแน่นอน