> เป้าลงทุน หุ้นคาร์บอนต่ำ > AAV

15 พฤษภาคม 2020 เวลา 20:00 น.

AAV-BA คาดรับพิษโควิด-19 ตลอดปี 63

เราทราบกันดีว่า หุ้นกลุ่มสายการบินเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มากพอๆกับหุ้นกลุ่มโรงแรม และเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านการดำเนินงานมากที่สุด เพราะเป็นธุรกิจเกี่ยวข้องกับการสัญจรไปมาระหว่างประเทศของบรรดานักธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยว หากเกิดสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบให้การเดินทางข้ามประเทศต้องหยุดชะงักลงก็จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสายการบินเช่นกัน


ผลกระทบที่เกิดกับกลุ่มสายการบินเริ่มรุนแรงขึ้นในเดือน ก.พ.-มี.ค. ที่ผ่านมา จากการที่หลายประเทศเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ มีการใช้มาตรการควบคุมอย่างการปิดเส้นทางการบินในการเดินทางเข้าประเทศ (ยกเว้นผู้ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ) ทำให้บรรยากาศการเดินทางด้วยเส้นทางการบินมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดดังกล่าว


และผลกระทบดังกล่าวก็แสดงออกมาผ่านตัวเลขผลการดำเนินงาน Q1/63 ที่ทาง AAV และ BA ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 63 โดยบทความวันนี้จาก CAF จะมาวิเคราะห์ส่วนสำคัญของผลการดำเนินงาน Q1 และต่อยอดไปสู่แนวโน้มการดำเนินงานไตรมาสที่เหลือของปีนี้ว่ามีปัจจัยใดที่เราจะต้องติดตาม พร้อมคำแนะนำการลงทุนใน Single Stock Futures กลุ่มสายการบิน...ถ้าพร้อมแล้ว เราไปเริ่มกันเลย


สรุปสาระสำคัญของผลการดำเนินงานของทั้ง 2 สายการบิน

(1) ด้านธุรกิจการบินทั้ง AAV และ BAรายงานว่าจำนวนผู้โดยสารลดลงราว 20-25% โดยเฉพาะผู้โดยสารการบินระหว่างประเทศ มีสาเหตุจากการระบาดของโควิด-19 ในจีนที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงจำนวนมาก ประกอบกับการที่หลายประเทศมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวแย่ลง ส่งผลให้ทั้ง 2 สายการบิน มีรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารลดลง


(2) ภาพรวมรายได้ของสายการบินมีแนวโน้มลดลงประมาณ 20%โดยเฉพาะรายได้ค่าโดยสารซึ่งได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ลดลงตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่วนด้านต้นทุนการให้บริการ แม้ว่าสายการบินจะงดให้บริการเที่ยวบินหลายเส้นทาง ประกอบกับต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง และทำให้ภาพรวมต้นทุนต่ำลง แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะทำให้ทั้ง AAV และ BA สามารถรักษาระดับของผลการดำเนินงานให้เป็นบวกได้


(3) ด้านผลการดำเนินงาน Q1/63 AAV ขาดทุนสุทธิจำนวน 671 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 497 ล้านบาท ส่วน BA มีการขาดทุนสุทธิจำนวน 338 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 504 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานดังกล่าว เราสรุปได้เลยว่าใน Q1/63 กลุ่มสายการบินได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างชัดเจน แตกต่างจากปกติที่ช่วง Q1 กลุ่มการบินมักมีผลการดำเนินงานเป็นบวกจากการเป็นไฮ-ซีซั่นต่อเนื่องมาจาก Q4 ของปีก่อนหน้า


แนวโน้มการดำเนินงานไตรมาสถัดไป ยังต้องลุ้นให้การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย

คาดว่าผลการดำเนินงานกลุ่มสายการบินมีแนวโน้มลดลงไปจนถึงสิ้นปี 63 เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังไม่มีท่าทีจะจบ และการใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดตั้งแต่ปลาย Q1 ยาวไปจนถึง 31 พ.ค. 63 ซึ่งอนุญาตให้สายการบินสามารถดำเนินการได้เฉพาะในประเทศเท่านั้น ส่วนการเดินทางข้ามประเทศยังมีการคุมเข้มอยู่ (ยกเว้นคนไทยที่ต้องการบินกลับจากต่างประเทศ) และยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะผ่อนคลายเต็มรูปแบบเมื่อไร


ทั้งนี้ AAV ได้ปรับลดเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารลงจากปีก่อนที่มีผู้โดยสาร 22 ล้านคน เหลือเพียง 10.8 ล้านคน หรือลดลง 51% ในปีนี้ และ AAV คาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นของธุรกิจการบินในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ของปี 63 โดยในปัจจุบัน AAV มีการเปิดเส้นทางการบินในประเทศแล้ว 12 เส้นทางเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ BA ที่มีการเปิดให้บริการบินในประเทศไปแล้วในวันเดียวกัน


สรุปปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวของกลุ่มสายการบินที่เราจะต้องติดตามในลำดับต่อไปก็คือ


1) สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ หากควบคุมการระบาดได้เร็วเท่าไร การเปิดเส้นทางการบินจะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น


2) การผ่อนคลายมาตรการควบคุม ซึ่งรัฐบาลมีการประเมินเป็นระยะๆ และ


3) กำลังซื้อของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อาจได้รับผลกระทบในช่วงโควิด-19


ในมุมมองของเรา เชื่อว่าหากสถานการณ์การระบาดคลี่คลาย มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมแล้ว เราก็มีโอกาสจะได้เห็นการกลับมาของบรรดานักท่องเที่ยวและทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวฟื้นตัว ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อการดำเนินงานของสายการบิน ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของสายการบินเพื่อสร้างกำไรสุทธิให้กลับมาอีกครั้ง


เทรด Single Stock Futures กลุ่มสายการบิน แนะนำใช้ปัจจัยทางเทคนิคเข้ามาช่วย

เมื่อวิเคราะห์ทางเทคนิคพบว่า ราคาหุ้นกลุ่มสายการบินมีลักษณะคล้ายกันคือแกว่งตัวหลังจากทดสอบแนวต้านแล้วไม่ผ่าน ดังนี้


- AAV หลังทดสอบแนวต้าน 2 บาทแล้วไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ก็ถอยลงมาเล่นในกรอบแนวรับ 1.55 บาท และแนวต้าน 1.75 บาท ในลักษณะดังกล่าว เราให้คำแนะนำว่าเปิดสถานะ Short บริเวณ 1.70 บาท โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 1.55 บาท และใช้การทะลุ 1.75 บาทเป็นจุด Stop Loss


- ด้าน BA หลังจากทดสอบ 6 บาทแล้วยังไม่ผ่าน ก็ออกอาการถอยลงมาทดสอบแนวรับใกล้ๆ 5.40 บาท ณ จุดนี้ เรายังไม่แนะนำให้เข้าสถานะใดๆ จนกว่าจะมีการหลุด 5.40 บาท หรือการทะลุ 5.70 บาทที่ชัดเจนเพื่อยืนยันแนวโน้ม เมื่อเกิดการหลุด 5.40 บาทเราแนะนำให้เปิด Short และใช้ 5.40 บาทเป็นจุด Stop Loss และในทางตรงข้าม หากทะลุ 5.70 บาทขึ้นไป เราแนะนำให้เปิด Long โดยใช้ 5.70 บาทเป็นจุด Stop Loss

ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X