ทันหุ้น – สู้โควิด –OSP กดปุ่มเดินเครื่องโรงงาน C-Vitt ดันกำลังการผลิตเพิ่ม 10-15% ดันครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ด้านโรงงานผลิตในเมียนมาจ่อ COD ปลายไตรมาส 2/2563 ตั้งเป้าคุมต้นทุนลดลงไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท ภายในปีนี้ วางงบ 4 พันล้านบาท รองรับการเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิตและการวิจัย

นางพรชิดา บุญสา กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการสายการเงิน บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า โรงงานผลิตเครื่องดื่ม C-vitt ที่จังหวัดอยุธยา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบสายการผลิต (Test run) คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มกว่า 10-15% ขณะเดียวกันการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มในประเทศเมียนมาแล้วเสร็จแล้ว ติดปัญหาทางเทคนิกเล็กน้อย เนื่องจากทางวิศวกรจากต่างประเทศไม่สามรถเข้ามาทดสอบเครื่องจักรได้ อย่างไรก็ดี คาดว่าโรงงานในเมียนมาจะ COD ในช่วงปลายไตรมาส 2/2563 ไม่เกินต้นไตรมาส 3/2563

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีการคุมเข้มต้นทุนค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องภายใต้ "โครงการ Fit Fast Firm" ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายจะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในปีนี้ลงไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท ทั้งนี้ เฉพาะไตรมาส 1/2563 บริษัทสามารถทำได้แล้วกว่า 75% ของเป้าหมายรวม ทำให้มองว่าในไตรมาส 2/2563 บริษัทยังสามารถควมคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่ดีได้ด้วยเช่นกัน

*ครึ่งปีหลังฟื้น

ทั้งนี้ประเมินภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2563 เชื่อว่าจะมีทิศทางการเติบโตที่ค่อนข้างชัดเจนกว่าเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสดควิด-19 จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ศูนย์การค้าต่างๆ สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ตลอดจนร้านค้ารายย่อยเริ่มกลับมาเปิดดำเนินการได้ ซึ่งช่วยสะท้อนต่อโอกาสที่ยอดขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับไตรมาส 2/2563 เบื้องต้นอยู่ระหว่างการประเมิน เพราะต้องยอมรับว่าในช่วงเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา บริษัทเองก็ได้รับผลกระทบจากการ Lockdown แต่มองว่าอาจไม่ร้ายแรง และเชื่อว่าผลการดำเนินงานจะออกมาดีกว่าตลาดรวม เพราะยอดขายในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม เริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดียังคงมีความเสี่ยงในเดือนมิถุนายนอยู่ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีความไม่แน่นอนสูง และต้องให้การจับตาดูอย่างใกล้ชิด

*ทุ่มงบลงทุน 4 พันล.

ส่วนแผนการลงทุนในปี 2563 นี้ บริษัทวางงบประมาณการลงทุนไว้ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท หลักๆ เป็นการนำเงินมาใช้รองรับการลงทุนพัฒนาศักยภาพขอกำลังการผลิตและในงานวิจัย เป็นต้น ทั้งนี้ ภายในช่วงครึ่งหลังปี 2563 บริษัทยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจเครื่องดื่มและธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ตลอดจนวางกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่เพ่อให้สอดคล้องต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมุ่งเน้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์ให้มากขึ้น

“ภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2563 อาจประเมินได้ยากเพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิ-19 ค่อนข้างไม่แน่นอน เราก็ทำได้เพียงจับตาดูอย่างใกล้ชิดและวางแผนให้รัดกุม รวมเร็วทันต่อสถานการณ์ แต่เราก็จะพยายามสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอยู่อย่างต่อเนื่อง จากจุดแข็งของ OSP ที่มีตราสินค้าแข็งแกร่งทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและของใช้ส่วนบุคคลที่เข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด และสามารถพัฒนานวัตกรรมได้ตรงความต้องการและทันสถานการณ์” นางพรชิดา กล่าว

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1