> SET > TOP

18 พฤษภาคม 2020 เวลา 08:00 น.

TOPจะพลิกกำไรสต๊อค ค่าการกลั่นฟื้น-ชน55บ.

ทันหุ้น-สู้โควิด-TOP ลุ้นไตรมาส 2/2563 มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน มองราคาน้ำมัน-ค่าการกลั่นทยอยฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ทุ่มงบ 3,486 ล้านดอลลาร์ ลงทุน 5 ปี พร้อมเดินหน้าโครงการ CFP คาด COD ไตรมาส 1/2566  โบรกแนะสะสม ให้ราคาเป้าหมาย 55 บาท เลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่มพลังงาน


นายณัฐพล นพรัตน์วงศ์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันจะทอยอยฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ไตรมาส 2/2563 เป็นต้นไปจะมีโอกาสกลับมาบันทึกกำไรจากสต็อคน้ำมัน (Stock gain) จากไตรมาสแรกที่ผ่านมา และเชื่อว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 หลังคาดการณโควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ภาคการขนส่ง การค้าปลีก และการท่องเที่ยวฟื้นตัว ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีการใช้น้ามันดิบเพิ่มขึ้น


รวมถึงกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ปรับลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่ปรับลดกำลังการผลิตลงราว 15 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้ลดความกังวลลงได้บ้าง


*ค่าการกลั่นฟื้นตัว


นอกจากนี้มองว่าค่าการกลั่น (GRM) ที่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกในไตรมาส 2/2563 ฟื้นตัวขึ้น จากไตรมาสแรกอยู่ที่ 0.1ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากความต้องการใช้น้ามันสำเร็จรูปมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยตลาดจะได้รับแรงหนุนจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ามันดีเซลสำหรับภาคอุตสาหกรรมและการขนส่งเพิ่มขึ้น


นอกจากนี้ซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางออกมาลดราคาน้ำมันให้ถูกกว่าราคาตลาด หรือราคาน้ำมันดิบดูไบ ส่งผลทำให้ค่าการกลั่นของโรงกลั่นในภูมิภาครวมถึง TOP ได้ประโยชน์จาก Crude OSP ที่ถูกกว่าน้ำมันดิบดูไบ โดยบริษัท มีการใช้ Crude จากตะวันออกกลางถึง 70% ทำให้คาดว่าจะส่งผลดีต่อต้นทุนปรับตัวลดลงราว 4-5ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ธุรกิจ อะโรเมติกส์คาดว่าจะทรงตัวหรือกดดันเล็กน้อย

สำหรับธุรกิจอื่น อาทิเช่น ธุรกิจไฟฟ้า ยังสามารถทำกำไรได้ในระดับที่ดี ส่วนธุรกิจผลิตเอทานอล และแอลกอฮอล์ มีการเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีการตั้งงบลงทุน 3,486 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับแผนลงทุนโครงการในอนาคต ตั้งแต่ปี 2563-2567โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) 3,263 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้คาดว่าโครงการดังกล่าวจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 1/2566


*มองเป็นโอกาสสะสม


บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง TOP ว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกต่ำกว่า Bloomberg consensus 2% แต่ดีกว่าประมาณการของเฝ่ายวิจัย 7% เนื่องจากผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันต่ำกว่าคาดที่ 1.08หมื่นล้านบาท (ฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 1.12 หมื่นล้านบาท) และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนต่ำกว่าคาดที่ 2.3 พันล้านบาท (ฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 2.8 พันล้านบาท)


ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายที่ 55.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 6.5 เท่า แม้ว่าผลประกอบการจะอ่อนแอในไตรมาส 1/2563 แนะนำให้สะสม TOP เพราะคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 2/2562เนื่องจากไม่มีผลขาดทุนก้อนใหญ่จากสต็อกน้ำมันเหมือนกับในไตรมาส 1/2563 และ base GRM ดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่า base GRM จะเพิ่มขึ้น ในเดือนพฤษภาคมเนื่องจาก crude premium ลดลง และในเดือนมิถุนายนจากค่าระวางเรือที่ต่ำลง ดังนั้นจึงยังคงเลือก TOP เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มพลังงาน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X