ทันหุ้น –สู้โควิด –  HMPRO เปิดให้บริการทุกสาขา รับปลดล็อกดาวน์ คาดช่วยกระตุ้นยอดขายไตรมาส 2/2563 รุกออนไลน์เต็มสูบหลังปัจจุบันเติบโตขึ้นจากเดิม 2-3 เท่าตัว พร้อมปรับแผนใหม่เตรียมเปิด 2 สาขา เดิมคาดเปิด 5 สาขา เชื่อสถานกาณณ์โควิดคลี่คลายธุรกิจจะกลับมาเติบโต

นางสาววรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบัญชีและการเงินเลขานุการ บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดให้บริการทุกสาขา ทั่วประเทศตามเป็นไปตามมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กรณีการคลายล็อกระยะที่ 2 อนุญาตให้มีการเปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ฯ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. เริ่ม 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ซึ่งบริษัทได้เตรียมมาตรการรองรับไว้อย่างเคร่งครัด ในการรักษาความปลอดภัยการรับลูกค้าเข้าร้านไม่เกิน 150 คน ซึ่งมองว่าไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจากธุรกิจของบริษัทไม่ได้มีทราฟฟิคหน้าร้านที่หนาแน่นมากเหมือนกันธุรกิจอาหาร

ทั้งนี้คาดว่าจะส่งผลดีต่อยอดขายในช่วงไตรมาสที่ 2/2563 แต่ประเมินว่ายอดขายจากสาขาเดิม(SSSG) ของไตรมาส 2/2563 ยังคงติดลบต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เนื่องจากเป็นการปิดสาขานานกว่า 1 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับหลายๆธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

และบริษัทจะยังคงขยายควบคู่ไปกับตลาดออนไลน์และเซอร์วิสอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Facebook ,Line รวมถึงโปรแกรมการขายต่างๆ และการโทรสั่งสินค้าจากทางหน้าร้าน ซึ่งที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะเติบโตขึ้นมา 2 – 3 เท่า แต่ยังไม่พีบงพอชดเชยกับยอดขายหน้าร้านที่หดหายไป แต่บริษัทมองว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น

*โควิดหายกลับมาโต

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นยังไม่นิ่ง จึงทำให้ยากต่อการประเมินเป้าหมายรายได้ที่ชัดเจน ซึ่งบริษัทคาดว่าสามารถกลับมาทบทวนตัวเลขได้ไหมในช่วงปลายไตรมาส 2/2563 อย่างไรก็ดีบริษัทคาดว่าหลังจากเหตุการณ์คลี่คลายมากขึ้น ธุรกิจอาจจะกลับมามีการเติบโต 75-80% ส่วนแผนการลงทุนคาดว่าปีนี้ ได้ชะลอแผนการลงทุนออกไปก่อนจากเดิมจะเปิดสาขาใหม่จำนวน 5 สาขา หลือเพียง 2 สาขา ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสาขากว่า 113 สาขา

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO คาดว่าไตรมาสที่ 2/2563 กระทบหนักสุด จากการ ล็อกดาวน์ในเดือน เม.ย 2663 ทั้งเดือนทำให้มีการปิดสาขามากกว่า 70% จากสาขาโดยรวม รวมถึงในสาขาในประเทศมาเลเซียที่ปิดหมดทุกสาขา

ทั้งนี้คาดเห็น SSSG มีโอกาสติดลบมากกว่า 20% ขณะที่การคลายล็อกดาวน์และการเปิดสาขาจะเริ่มได้ช่วงกลางเดือน พ.ค. ทั้งนี้ผู้บริหารคาดทั้งปี 2563 SSSG จะติดมีผลติดลบ โดยเราคาดทั้งปีมีโอกาสติดลบกว่า 10%ได้ ลดลงจากเดิมที่เราคาดติดลบสูงสุดที่ -2% แม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 จะคลี่คลายลง แต่การเพิ่มขึ้นของแรงซื้อยังถูกจำกัดจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายจาก Online และการให้บริการลูกค้าในรูปแบบ Shop For You ของ HMPRO ได้รับการตอบรับดี โดยการขายสินค้า Online มียอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 200% และมีสัดส่วนเมื่อเทียบกับยอดขายคิดเป็น 3% จากเดิม ที่มีสัดส่วนเพียง 1% ในช่วง ล็อกดาวน์

*ชูเป้าหมาย 14.20 บาท

ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบจาก COVID-19 รองรับความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องและการลงทุนไว้โดยมีการเสริมสภาพคล่องโดยการออกหุ้นกู้ในช่วงต้นปีแล้วเสร็จ จำนวน 3 พันล้านบาท และ ขอวงเงินกู้เพิ่มเพื่อรองรับความเสี่ยง โดยในไตรมาส 1/2563 มีเงินสดในมือ 1 หมื่นล้านบาท แม้ว่าสัดส่วน D/E จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.15 เท่า แต่ยังน้อยกว่า Debt covenants ที่ 2.5 เท่า ปรับประมาณการและราคาเป้าหมายคาดปี 2564 เข้าสู่ภาวะปกติ แนะนำ "Trading" ราคาเป้าหมาย 14.20 บาท