ผลประกอบการ 1Q63 รายได้อยู่ที่ 1,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY รายได้ในกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปเพิ่มขึ้น 7% โดยแบ่งเป็น รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยนอก(OPD) เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY รายได้จากกลุ่มผู้ป่วนใน(IPD) เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoYในส่วนของรายได้จากโครงการประกันสังคมเพิ่มขึ้น 10% YoY จากรายได้เหมาหัวที่ปรับอัตราค่าใช้จ่ายเพิ่มจากเดิม 1,500 เป็น 1,640 ต่อคน/ปีตั้งแต่ต้นปี ในส่วนของรายได้จากโครงการภาครัฐอื่นๆเพิ่มขึ้น 2% YoY เนื่องจากกาปรับอัตราการจ่ายเงินของหลักประกันสุขภาพ อย่างไรก็ดีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 31% เป็น 29% สาเหตุหลักคืออัตราต้นทุนต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผลกระทบของ Covid-19 ทำให้ผู้เข้ารับบริการน้อยลง ทำให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 186 ล้านบาท เติบโต 4% YoY

แนวโน้มผลประกอบการในปีนี้เรามองว่า ผลประกอบการจะยังมีการเติบได้ดี เนื่องมาจากการเปิดให้บริการเฟสใหม่ของโรงพยาบาล 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ เฟส 2 จังหวัดปราจีนบุรี ยังมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปัจจุบันมีผลขาดทุนลดลง รวมถึงรายการที่เป็นรายได้จากโครงการประกันสังคม ที่มีการปรับอัตราค่าเหมาหัวเพิ่มขึ้น จาก 1,500 เป็น 1,640 ต่อคน/ปี และอัตราการจ่ายเงินของหลักประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรายได้จากโครงการประกันสังคมคิดเป็นกว่า 30% จากรายได้ทั้งหมด

แนะนำ “เคาะ” ครับ ด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นกลับตัวขึ้นรูปแบบตัว N ขาขึ้น แท่งเทียนแกว่งตัวหรือเรียงตัวขึ้นตามกันกับSMA10วันที่ทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้น 2.50-2.48 อย่างมีนัยสำคัญ ปริมาณการซ้อขายที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำแนวโน้มทดสอบแนวต้านจุดสูงแท่งเทียนรอบก่อนหน้า 2.62 / 2.70 / 2.80 ตามลำดับ

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่มเมื่อทดสอบผ่าน 2.62 ได้มั่นคงเป็น Buy

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 2.48/2.42 ไม่ควรต่ำกว่า