> SET > GULF

22 พฤษภาคม 2020 เวลา 07:45 น.

โบรกเล็งอัพเป้าGULF ชูนำเข้าLNGต้นทุนลด

ทันหุ้น–สู้โควิด–GULF โบรกประเมินมี Upside จากการคว้าใบอนุญาตจัดหา-ค้าส่งLNG3 แสนตันต่อปี ประเมินทุกๆ GPM ที่สูงกว่าคาด 100 basis points (bps) จะเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมาย 0.10 บาทต่อหุ้น ขณะที่อยู่ระหว่างทบทวนราคาเป้าหมาย ด้านผู้บริหารชี้ช่วยลดต้นทุนผลิตค่าไฟฟ้าของSPP ในกลุ่ม หนุนต้นทุนค่าไฟฟ้าลูกค้านิคมลดลง


บริษัท หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)ระบุถึงบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือGULF ว่ามีมุมมองเชิงบวกหลังได้รับใบอนุญาตนำเข้าก๊าซธรรมชาติ LNG ของ GULFมาเพื่อใช้กับโรงไฟฟ้า IPP หินกอง และ SPP ส่วนของการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) 19 โครงการ หากกราคา LNG นำเข้าของ GULF ต่ำกว่าราคา pool gas ที่ซื้อจากบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ในระยะยาวได้ คาด Upside ที่มีนัยสำคัญจากส่วนของการขายไฟ IU (สัดส่วนราว 20% ของรายได้ทั้งหมด)


อัพไซด์ 0.10 บาท


เบื้องต้นฝ่ายวิจัยประเมินทุกๆ GPM ที่สูงกว่าคาด 100 basis points (bps) จะเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมาย 0.10 บาทต่อหุ้น หรือ 0.4% โดยหากสามารถเพิ่ม GPM ได้มากกว่า 1,250 bps จะเป็น upside ต่อราคาเป้าหมายมากกว่า 5% อย่างมีนัยสำคัญ


อย่างไรก็ตามในส่วนของโรงไฟฟ้าหินกองคาดไม่ได้มี Upside อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงภาครัฐจะเป็นผู้รับภาระ ซึ่งต้นทุน LNG ที่นำเข้าลลดง รัฐก็จะจ่ายต้นทุนเชื้อเพลิงให้น้อยลงเช่นกัน และอาจยังต้องพิจารณาในส่วนของค่าท่อที่ต้องตกลงกับ PTT นอกจากนี้ในส่วนของ upside ที่จะมาจากธุรกิจจัดหา LNG ของบริษัท ฝ่ายวิจัยยังไม่สามารถประเมินได้ แต่หากอิงธุรกิจเทรดดิ้ง ของ PTT ที่ EBITDA margin ราว 1% upside อาจไม่ได้กระทบอย่างมีนัยสำคัญ


ทั้งนี้จากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของธุรกิจ โดยมองว่าตลาดจะคาดหวังเชิงบวกต่อการนำเข้า LNG และทำให้ต้นทุนก๊าซของโรง SPP ในส่วนของการขายไฟ IU ของบริษัทต่ำลง และส่งให้ GPM เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามความเสี่ยงเชิงโครงสร้างที่เปลี่ยนไปคือค่าไฟของประเทศที่คำนวณอิงกับ pool gas ของ PTT ที่ปรับตัวช้ากว่า ในช่วงที่ราคาก๊าซเป็นขาลง อาจทำให้บริษัทมี upside จากต้นทุนที่ปรับตัวเร็วกว่าค่าไฟ แต่ในช่วงราคาก๊าซขาขึ้นอาจทำให้ความเสี่ยงของ downside GPM จากต้นทุนที่ปรับเพิ่มเร็วกว่าค่าไฟเช่นกัน ส่วนประมาณการเป้าหมายและผลการดำเนินงานอยู่ระหว่างทบทวนเป้าหมายใหม่


*ลดต้นทุนได้จำนวนมาก


นางสาวยุพาพินวังวิวัฒน์กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินGULF เปิดเผยว่า บริษัทได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ(LNG) เป็นปริมาณ 300,000 ตันต่อปี โดยบริษัทจะจำหน่ายก๊าซธรรมชาติปริมาณดังกล่าวให้แก่โรงไฟฟ้า SPP จำนวน 19 โครงการของกลุ่มบริษัทเพื่อผลิตไฟฟ้าจำหน่ายแก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การนำเข้าก๊าซธรรมชาติดังกล่าว จะช่วยทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าโดยรวมของโรงไฟฟ้า SPP ในกลุ่มบริษัทลดต่ำลง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าไฟของลูกค้าอุตสาหกรรมของโรงไฟฟ้าดังกล่าวลดต่ำลงด้วยเช่นกัน


นอกจากนี้บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (“HKH”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัท ถือหุ้น49% และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“RATCH”) ถือหุ้น 51% ได้ขอรับอนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ จาก(กกพ.) นั้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอเรียนให้ทราบว่า HKHได้รับอนุมัติจาก กกพ. ให้เป็นผู้จัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปริมาณ 1.4 ล้านตันต่อปี เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง ขนาดกำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ตำบลหินกองอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2567 และ 2568 การได้รับใบอนุญาตดังกล่าว จะทำให้โรงไฟฟ้าหินกอง สามารถลดต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติให้ต่ำลง ทำให้ผลตอบแทนของโครงการโรงไฟฟ้าหินกองเพิ่มขึ้นและยังส่งผลให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมของประเทศลดต่ำลง

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X