ทันหุ้น –สู้โควิด: LPH ส่งซิกครึ่งหลังปี 2563 ฟอร์มแจ่ม รับเข้าช่วงไฮซีซัน แถมโควิดเริ่มเบาบาง ดันยอดผู้ใช้บริการสดใส บิ๊ก "ดร.อังกูร" ปักธงปีนี้รายได้พุ่ง 25-30% จากปีก่อน รับฐานค่ารักษาพยาบาลโตต่อเนื่อง ด้านโบรกเกอร์ แนะ “ซื้อ” เคาะเป้าหมาย 5.70 บาท ฟันธงปีนี้กำไรโต 29%
ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลงานครึ่งหลังปี 2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งแรกปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาล (ไฮซีซัน) ของอุตสาหกรรมมีผู้มาใช้บริการภายในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 19) ที่เริ่มคลี่คลายลง ซึ่งสะท้อนได้จากตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นในระดับที่ต่ำ ประกอบกับตัวเลขผู้ที่หายจากโรคดังกล่าวเป็นจำนวนมาก น่าจะช่วยสนับสนุนให้ผู้ป่วยกล้าเข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลมากขึ้น
ตอกย้ำรายได้ตามฝัน
อย่างไรก็ดี ในปี 2563 บริษัทเชื่อว่ารายได้ยังคงโตตามเป้าที่ตั้งไว้ราว 25-30% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้ราว 1.59 พันล้านบาท โดยแนวโน้มผู้ป่วยเงินสดยังมีทิศทางอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์ประกันต่างๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
ล่าสุดสัดส่วนรายได้ของ LPH แบ่งเป็น ผู้ป่วยประเภทเงินสด 60% รายได้จากผู้ป่วยประกันสังคม 40% โดยหากนับเฉพาะในส่วนของผู้ป่วยที่มีโควต้าอยู่กับทาง LPH ณ ณ สิ้นปี 2562 พบว่า มีผู้ประกันตนประมาณ 161,000 คน รวมทั้งยังมีแนวทางยื่นขอโควต้าในอนาคตเพิ่มเติม
อวดงบQ1โต20.79%
ส่วนงบการเงินสิ้นไตรมาส 1/2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 42.84 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 35.46 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 20.79% โดยมาจากรายได้หลักจากการรักษาพยาบาลเติบโตรวม 10.04% มาจากการเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ของสำนักงานประกันสังคมในปี 2563 และการเติบโตต่อเนื่องของศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลผู้ใช้บริการบางส่วนเลื่อนการเข้าใช้บริการที่ไม่เร่งด่วนหรือจำเป็นออกไปก่อน
สำหรับรายได้การให้บริการของบริษัทย่อย บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (AMARC) เติบโตขึ้น 12.60% เนื่องจากเป็นการให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการให้กับสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งจำเป็นและยังคงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องแม้อยู่ในภาวะโรคระบาด
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น LPH เนื่องจากประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ไว้ระดับ 142 ล้านบาท เติบโต 29% จากปี 2562 หลังล่าสุดสำนักงานประกันสังคมมีมติเพิ่มค่ารักษาพยาบาลปี 2563 ให้กับบริการในส่วนของการรักษาทั่วไป (basic capitation) อีก 140 บาทต่อราย เป็น 1,640 บาท เพิ่มขึ้นราว 9.3% จาก 1,500 ในปี 2562) ประกอบกับ “High Cost Care” (HCC) เป็น 746 บาทต่อรายต่อปี เพิ่มขึ้น 16.6% จากปีก่อน
ขณะเดียวกันทางประกันสังคมนั้นยังมีการเพิ่มค่ารักษาในส่วนของ 26 โรคเรื้อรังเป็น 453 บาทต่อรายต่อปี เพิ่มขึ้น 1.3%ซึ่งเท่ากับว่ามีการปรับเพิ่มอัตราการรักษาพยาบาลสามรายการหลักนี้ 9.7% เป็น 2,839 บาท (จากเดิม 2,587 บาท) จึงทำให้ฝ่ายวิเคราะห์คิดว่าประเด็นนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อกำไรปี 2563โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ารายได้จากประกันสังคมจะคิดเป็นสัดส่วนถึง 38% ของรายได้รวมจากธุรกิจโรงพยาบาลของ LPH อีกทั้งทางฝ่ายวิเคราะห์เชื่อผลกระทบด้านลบจากบริการ HCC จะลดลงในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
เชียร์สอยเป้า5.70 บ.
ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับธุรกิจมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จึงประเมินราคาเป้าหมายหุ้น LPH ไว้ระดับ 5.70 บาท รวมทั้งให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น LPH
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม