ทันหุ้น – สู้โควิด – BCP มั่นใจ EBITDA ปีนี้ไม่ติดลบ ปรับกลยุทธ์ลดงบลงทุนรักษากระแสเงินสด เชื่อทั่วโลกคลายล็อกดาวน์หนุนความต้องการใช้น้ำมันฟื้น ดีเดย์มิถุนายนเดินเครื่องหน่วยกลั่น 2 ดันกำลังการผลิตแตะ1 แสนบาร์เรลต่อวัน เดินหน้าปรับปั๊มพร้อมขาย B10 ให้ครบ 1,200 ปั๊มทั่วประเทศ
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP มั่นใจราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพ้นจุดต่ำสุดขึ้นมาแล้ว โดยมีปัจจัยหนุนจากการทยอยยกเลิกมาตรการปิดประเทศ หรือ ปิดเมือง (Lock down) หนุนความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ให้ดีกว่าช่วงครึ่งแรก
ทั้งนี้บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยหากทั่วโลกเริ่มทยอยเปิดประเทศ โดยไม่มีการแพร่ระบาดระยะที่ 2 คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทมีความมั่นใจว่าจะรักษาสามารถอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ทั้งปี 2563 ให้เป็นบวกได้ แม้จะไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ EBITDA ปี 2562 ที่ 9 พันล้านบาท
โดยมีปัจจัยหนุนจากการปรับลดงบประมาณการลงทุนปี 2563 ตัดงบลงทุนลงมาเหลือ 22,800 ล้านบาท จากเดิมที่ 29,800 ล้านบาท โดยหลักจะใช้ในธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ของ BCPG ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท หรือราว 66% สำหรับธุรกิจโรงกลั่นราว 24% โดยเฉพาะในโครงการ 3E การขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีก 54 แห่ง และร้านกาแฟอินทนิล อีก 160 สาขา คาดใช้งบลงทุนราว 1 พันล้านบาทหรือประมาณ 5% และใน BBGI อีก 5%
เดินเครื่องโรงกลั่น
นายชัยวัฒน์ ระบุว่า โรงกลั่น หน่วยกลั่นที่ 2 ซึ่งปิดซ่อมบำรุงตั้งแต่เดือนมีนาคม จะเริ่มเดินเครื่องได้ในเดือนมิถุนายน 2563 หนุนให้บริษัทสามารถ กลับมากลั่นน้ำมันได้ในระดับ 1 แสนบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการกลั่น (Continuous Catalyst Regeneration Unit: CCR) ได้รับผลกระทบจากโควิด-19ทำให้จากเดิมที่คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นในเดือนพฤษภาคม ล่าช้าออกไปเป็นเดือนตุลาคม 2563 พร้อมกันนี้ได้พิจารณาเลื่อนกำหนดการซ่อมบำรุงโรงกลั่นประจำปี 2563 จากเดือนตุลาคม 2563 ไปช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2564
“ความต้องการใช้ทยอยฟื้นตัว และเราพึ่งซ่อมบำรุงหน่วยที่ 2 เสร็จ ประกอบกับโครงการ CCR ก็ไปเสร็จเดือนตุลาคมปีนี้ จึงพิจารณาเลื่อนแผนซ่อมใหญ่ออกไปเป็นปลายไตรมาส 1/2564 หรือต้นไตรมาส 2/2564 ซึ่งประหยัดเงินได้อีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท”
คาดการณ์ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/63 เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อยู่ โดยเฉพาะธุรกิจน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดในเดือนเมษายน 2563 และธุรกิจโรงกลั่นยังได้รับผลกระทบจากมาตรการ ล็อกดาวน์
เตรียมความพร้อมใช้ B10
สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต บริษัทเร่งเตรียมความพร้อมรองรับการที่รัฐบาลจะประกาศใช้น้ำมัน B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของประเทศไทย โดยจะปูพรมจำหน่ายน้ำมัน B10 ให้ครบ 1,200 สถานีทั่วประเทศ รวมถึงการเตรียมความพร้อมรองรับการประกาศใช้น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานของประเทศด้วย และยกเลิกจำหน่ายน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91
ขณะเดียวกันบริษัทได้เร่งปรับปรุงระบบปฏิบัติการสนับสนุนหลังบ้านให้มีความทันสมัย นำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาเสริมงานบริการให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างโครงข่ายทางธุรกิจใหม่ๆ จากฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ทั้งจำนวนสถานีจ่ายน้ำมัน ร้านอินทนิล ความสามารถในการกลั่นไบโอทานอล ฯลฯ เป็นธุรกิจใหม่ๆ
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม