ทันหุ้น - ALL ลุยเปิด 4 โครงการใหม่ช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่า 4-5 พันล้านบาท ปักเป้ายอดขายปีนี้แตะ 5 พันล้านบาท เตรียมเปิดให้บริการโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ เผยปัจจุบันมีผู้จองพื้นที่แล้ว 70-80% สามารถบุ๊คเป็นรายได้เข้าทันทีช่วงครึ่งปีหลัง

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเปิด 4โครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่ารวมกว่า 4,000-5,000ล้านบาท ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม Charoennakhon มูลค่า 1,500 ล้านบาท โครงการ Lasalle 83มูลค่า2,000 ล้านบาท พร้อมทั้งมีแผนเปิดขายโครงการเฟส 3ภายในโครงการ The Vision Ladprao- Nawamin มูลค่า 400ล้านบาท

เปิดคอมมูนิตี้มอล

อีกทั้งยังเตรียมเปิดให้บริการโครงการคอมมูนิตี้มอล The New Forum Plaza พัทยา ซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าจองพื้นที่แล้วประมาณ 70-80%และจะเริ่มรับรู้เป็นรายได้เข้ามาทันทีในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

ทั้งนี้บริษัทตั้งรายได้ปี 2563ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท หรือเติบโตตัวเลข 2หลัก จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,918.22 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ายอดขายที่ระดับ 5,000 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทมียอดขายได้แล้ว 2,000ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี

นอกจากนี้บริษัทมียอดขายรอโอน(Backlog) ในมือกว่า 11,500ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise จำนวน 7,800 ล้านบาท คิดเป็น 69%โครงการคอนโดมิเนียม High Rise จำนวน 3,500ล้านบาท คิดเป็น 28% และโครงการทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 200ล้านบาท คิดเป็น 3% ซึ่งมูลค่า Backlog ดังกล่าวจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 5,700 ล้านบาท

ทยอยโอนปีนี้

สำหรับโครงการที่จะทยอยโอนในปีนี้ ได้แก่ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 1,800ล้านบาท,ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71มูลค่า 1,500 ล้านบาท ,ดิ เอ็กเซล รัชดา 18 มูลค่า 1,000ล้านบาท , ดิ เอ็กเซล ลาดพร้าว - สุทธิสาร มูลค่าประมาณ 1,000ล้านบาท , อิมเพรสชั่น ภูเก็ต มูลค่า 2,000ล้านบาท และแนวราบ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว - นวมินทร์ มูลค่าโครงการ 1,300ล้านบาท

"ในครึ่งปีหลังเราเน้นขับเคลื่อนด้วยการนำสินค้าที่สร้างเสร็จแล้ว และพร้อมโอนในปีนี้ ซึ่งจุดแข็งของเราคือไม่ค่อยมีสต็อคคงค้างพอสร้างเสร็จก็ขายหมดเลย แถมตอนนี้รัฐบาลได้มีการผ่อนปรนคลายล็อคดาวน์มากขึ้นทำให้คนเริ่มชินกับการเดินทางเข้ามาดูอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นครับ" นายธนากร กล่าว

อย่างไรก็ดีทิศทางผลการดำเนินงานในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2563-2565) บริษัทวางเป้าหมายที่จะมีรายได้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักอย่างต่อเนื่อง พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับ 15-20%โดยบริษัทจะใช้กลยุทธ์ขยายแนวราบไม่ว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยว และบ้านแฝดเพื่อเสริมเข้ามาในพอร์ตมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเพียงพอเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ได้อีก 2-3 ปี