> mai > ATP30

17 มิถุนายน 2020 เวลา 09:20 น.

‘ATP30’เตรียมรถพร้อม นักท่องเที่ยวกลับครึ่งหลัง

ทันหุ้น – สู้โควิด - ATP30 ชี้ครึ่งปีหลังเตรียมให้บริการเดินรถรับส่งนักท่องเที่ยวเต็มที่ คาดยอดใช้บริการพุ่งขึ้นเกิน 70% หลังปลดล็อกดาวน์ มองธุรกิจพ้นจุดต่ำสุดในเดือนพฤษภาคม และเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป เชื่อหนุนทิศทางครึ่งปีหลังโตเด่น


นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก(Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า บริษัทประเมินทิศทางธุรกิจและผลประกอบการครึ่งปีหลังปี 2563 จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศเริ่มคลี่คลาย อีกทั้งห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเปิดบริการปกติ ส่งผลให้การบริการรับส่งนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯไปเกาะพะงัน


กลับสู่ภาวะปกติ


รวมถึงการรับส่งผู้ใช้บริการจากที่พักอาศัยไปศูนย์การค้ากลับเข้าสู่ภาวะปกติ และบริษัทเตรียมให้บริการเต็มประสิทธิภาพในสัปดาห์หน้า สำหรับจำนวนรถให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวไปเกาะพะงันอยู่ที่ 3 คัน ส่วนรถรับส่งผู้ใช้บริการจากที่พักอาศัยไปศูนย์การค้าอยู่ที่ 6 คัน


ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนรถให้บริการรวมทั้งสิ้น 40 คัน และใช้ Capacity ที่ 70% โดยในครึ่งปีหลังปี 2563 บริษัทคาด Capacity จะเพิ่มขึ้นเกิน 70% จากการให้บริการที่กำลังเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกันบริษัทประเมินกลุ่มลูกค้ายานยนต์จะเริ่มเปิดโรงงานได้ในภายในครึ่งปีหลัง และคาดจะเห็นภาพการผลิตในภาวะปกติในช่วงไตรมาส 4/2563


อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินแนวโน้มผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป โดยบริษัทประเมินว่าเดือนพฤษภาคมจะเป็นจุดต่ำสุดของการดำเนินธุรกิจ ส่วนภาพรวมรายได้ปีนี้บริษัทคาดจะต่ำกว่าปีก่อน 458.89 ล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกบริษัทได้รับผลกระทบจากการปิดล็อกดาวน์ และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ประกอบกับบริษัทจะพยายามลดต้นทุนการดำเนินงาน เพื่อรักษาฐานมาร์จิ้น


รักษาสภาพคล่อง


“ปีนี้เราได้รับผลกระทบแน่ๆจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว ทำให้ทิศทางรายได้ปีนี้อาจจะถดถอยไปบ้างเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนการบริหารจัดการ เราพยายามรักษาสภาพคล่อง และลดต้นทุนภายในบริษัท”นายปิยะ กล่าว


นายปิยะ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทยังคงมีการเจรจาให้บริการกับลูกค้าอื่นๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะยังมีผู้ประกอบการที่มีปัญหาเรื่องการขนส่งพนักงานอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้เป็นโอกาสของบริษัทในการที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาจากความเชี่ยวชาญของบริษัท ซึ่งจะทำให้ฐานลูกค้าของบริษัทขยายเพิ่มขึ้นได้อีก และสัญญาการให้บริการขนส่งพนักงานเป็นสัญญาระยะยาว 5 ปี ทำให้สามารถรองรับรายได้ในอนาคตได้ดี


ทั้งนี้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 103.07 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 113.45 ล้านบาท จำนวน 10.38 ล้านบาท หรือลดลง 9.15 % และมีกำไรสุทธิ 5.45 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12.17 ล้านบาท จำนวน 6.72 ล้านบาท สาเหตุที่ประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เล็กน้อย

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X