> mai > ACG

19 มิถุนายน 2020 เวลา 09:00 น.

ACGจุดพลุรับปลดล็อกเมือง กดปุ่มเปิดเซอร์วิสปั๊มมาร์จิ้น

ทันหุ้น –สู้โควิด - ACG โดดรับปลดล็อกเมืองหนุนทิศทางธุรกิจดีขึ้น พร้อมเปิดให้บริการเซอร์วิส ปั๊มมาร์จิ้นโต หวังดันสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นที่ระดับ 17-18% มองทิศทางซัพพลายหดตัว เชื่อหนุนยอดขาย กำไรต่อหน่วยเพิ่ม พร้อมบริหารสต็อคสินค้าให้เพียงพอ  เล็งตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่เพื่อให้บริการซ่อมแซม และบำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อ


นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG ดำเนินธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding company) ปัจจุบันมี บริษัท ฮอนด้ามะลิวัลย์ จำกัด เป็นบริษัทแกน ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายและซ่อมบำรุงรถยนต์ยี่ห้อ Honda เปิดเผยว่า บริษัทประเมินทิศทางธุรกิจต่อจากนี้ จะปรับตัวดีขึ้น หลังปลดล็อกดาวน์ และเปิดเมือง โดยโชว์รูมของบริษัทอยู่ในพื้นที่ภาคใต้จังหวัดภูเก็ต กระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและมีความต้องการใช้รถยนต์เป็นจำนวนมาก อีกทั้งโชว์รูมกลับมาเปิดได้ตามปกติ ธุรกิจบริการหรือเซอร์วิสก็จะดำเนินการปกติเช่นกัน คาดจะช่วยผลักดันมาร์จิ้นต่อจากนี้ให้เติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากมาร์จิ้นจากธุรกิจบริการหรือเซอร์วิสสูงกว่าการขายรถยนต์


ดันรายได้บริการเพิ่ม


อย่างไรก็ตามบริษัทคาดสัดส่วนรายได้จากการให้บริการเซอร์วิส หรือการซ่อมบำรุงปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 17-18% จากปีก่อนที่ 10-11% ทั้งนี้บริษัทคาดการเช็คระยะของรถยนต์เมื่อถึงกำหนด ยังมีอยู่จำนวนมาก อีกทั้งบริษัทคาดแนวโน้มมาร์จิ้นปีนี้จะทำให้ได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ 6-7%


ขณะเดียวกันบริษัทยังเกาะติดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิดว่าจะกลับมาระบาด หรือมีผลกระทบกับเศรษฐกิจ และการขยายธุรกิจในประเทศไทยหรือไม่ โดยบริษัทวางแผนจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ บริษัท ออโตคลิก บาย เอซีจี จำกัด (Autoclik By ACG Co.,Ltd.) เพื่อประกอบให้บริการซ่อมแซม และบำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อ (FAST FIT) มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เดิมคาดชัดเจนในไตรมาส 3/2563 และคาดจะเริ่มให้บริการได้ไตรมาส 4/2563 นั้น บริษัทขอดูสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด-19 และนโยบายที่ชัดเจนจากทางรัฐ หากสถานการณ์คลี่คลายคาดจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ตามแผนเดิม


ขณะที่ทิศทางการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ บริษัทคาดโรงงานจะยังไม่ผลิตรถยนต์เต็มรูปแบบ เพราะด้วยเศรษฐกิจและอัตราหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จากครึ่งปีแรกยังอยู่ในระดับสูง ทำให้บริษัทประเมินซัพพลายหรือรถยนต์ผลิตใหม่จะมีจำนวนน้อยลง หากเป็นไปตามที่บริษัทคาด จะส่งผลให้บริษัทมีทิศทางยอดขาย กำไรต่อหน่วยที่สูงขึ้น จากการที่ซัพพลายลดลง ประกอบกับการแข่งขันในอุตสาหกรรมจะลดลงไปตามซัพพลายเช่นเดียวกัน


บริหารสต็อคสินค้า


พร้อมกันนี้บริษัทจะบริหารสต็อคสินค้าให้เพียงพอต่อการขาย และสามารถส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าได้ตามปกติทุกสาขา ขณะที่สินค้าอุปกรณ์ตกแต่งและอะไหล่นั้น ฮอนด้ายังคงจัดส่งอุปกรณ์ตกแต่งและอะไหล่ให้แก่บริษัทย่อยของบริษัทตามปกติทุกสาขา


อนึ่ง ในไตรมาส 1/2563 บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 จำนวน 18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X