ทันหุ้น –สู้โควิด –ADVANC จับมือ SPI ตั้งบริษัทร่วมทุน  พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายใยแก้วนำแสงภายในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ของธุรกิจกลุ่มลูกค้าองค์กร รองรับการเติบโตของบริการ 5G

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI ภายใต้ชื่อบริษัท สห แอดวานซ์ เน็ทเวอร์ค จำกัด (SAN) เพื่อให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ภายในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ บริษัทร่วมทุนมีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท โดย ADVANC ถือหุ้น 70% คิดเป็นเงินลงทุน 21 ล้านบาท และ SPI ถือหุ้น 30% คิดเป็นเงินลงทุน 9 ล้านบาท

โดยการร่วมลงทุนครั้งนี้ เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายใยแก้วนำแสงภายในสวนอุตสาหกรรมของ SPI ซึ่งประกอบด้วย สวนอุตสาหกรรมรวม 4 แห่ง ได้แก่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี, อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี, อ.เมือง จ.ลำพูน และอ.แม่สอด จ.ตาก รวมพื้นที่ประมาณ 7,255 ไร่ และมีโรงงานตั้งอยู่กว่า 112 แห่ง

*เสริมแกร่งรายได้

ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีความต้องการในการใช้บริการโทรคมนาคมสื่อสารที่มีคุณภาพเพิ่มสูงขึ้น โครงข่ายใยแก้วนำแสงเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการต่อยอดบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูง (Domestic Data Circuit) บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สำหรับองค์กร (Corporate Internet) บริการคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ อีกทั้งเป็นการรองรับการเติบโตของบริการ 5G สำหรับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในอนาคต เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ของธุรกิจกลุ่มลูกค้าองค์กรของเอไอเอส ให้เติบโตอย่างแข็งแรง

นอกจากนี้ ADVANC ยังได้ตั้งบริษัทย่อยใหม่ ภายใต้ชื่อบริษัท เลิร์นดิ จำกัด (LearnDi) เพื่อประกอบกิจการจัดฝึกอบรมและสัมมนาความรู้ ผ่านการเรียนการสอนทางออนไลน์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้น 99.99%

*โบรกเคาะเป้า 235 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด ระบุว่า หลังจากเริ่มมีการปลดล๊อคดาวน์ประเทศเรามองว่ารายได้บริการน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นโดยประเมิน -3.5% จากปีก่อนในไตรมาส 2/2563, -0.5% จากปีก่อนในไตรมาส 3/2563ก่อนที่จะพลิกกลับมาเป็นบวก +0.5% จากปีก่อนในไตรมาส 4/2563 และประเมินภาพโมเมนตัมของกำไรหลักฟื้นตัวเช่นเดียวกัน

โดยคาดกำไรหลักไตรมาส 2/2563 ที่ 6.9 พันล้านบาท (-12% จากปีก่อน และ 3% จากไตรมาสก่อน), 7.6 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/2563 (-7% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน) และ 7.85 พันล้านบาทในไตรมาส 4/2563 (เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน และ 3% จากไตรมาสก่อน) ซึ่งโดยภาพรวมแล้วกลุ่ม ICT เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและวิกฤตที่เกิดขึ้น ขณะที่ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 235 บาท และเป็นหุ้นที่ชอบที่สุดในกลุ่ม ICT จากความคาดหวังเป็นผู้นำในตลาด 5G

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1