ทันหุ้น -สู้โควิด: SEAFCO ครึ่งปีหลังเตรียมรับงานเพิ่ม ทั้งภาครัฐและเอกชน หลังประเด็นโรคระบาดโควิด -19 เริ่มคลี่คลาย ปัจจุบันกำงานในมือกว่า 2,100 ล้านบาท เตรียมรายได้ต่อเนื่อง มั่นใจผลงานปีนี้ไม่น่าเป็นกังวล ฟากโบรก แนะนำ "ซื้อ" เชื่อ SEAFCO จะได้รับงานใหม่ๆ ในมือเพิ่ม ให้เป้ารายได้ที่ 3,300 ล้านบาท
ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า ทิศทางอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีหลังคาดดีกว่าครึ่งปีแรก จากปริมาณงานงานเสาเข็มเจาะที่ภาครัฐและภาคเอกชนจะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ตามแผนการใช้งบประมาณในการลงทุน
คาดว่าครึ่งปีหลังประเด็นโรคระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย บริษัทจึงเตรียมพร้อมเข้าประมูลงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการใหญ่ที่คาดหวัง คือรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ในปี 2564 คาดว่าจะเห็นความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้ม และสีม่วงส่วนต่อขยาย เอื้อประโยชน์ในการเข้ารับงานให้มีความต่อเนื่อง
งานในมือ 2.8 พันลบ.
ปัจจุบันบริษัทยังมีงานในมือ(Backlog) อีกกว่า 2,800 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีนี้ราว 2,300-2,400 ล้านบาท ซึ่งในระหว่างช่วงที่เหลือคาดว่าจะยังมีงานขนาดเล็กๆ เข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเกิดวิกฤตโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการวางเสาเข็มเป็นงานที่ทำในช่วงกลางวันดังนั้นการเคอร์ฟิวจึงไม่มีผลกระทบ นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทยังคงมีการใช้อัตรากำลังการผลิตเต็ม 100% สะท้อนต่อการดำเนินงานที่ไม่ติดขัด แม้การเกิดวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม แต่บริษัทยังคงมีความโชคดีที่มี Backlog ที่ค่อยข้างแข็งแกร่ง ทำให้มีการรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องได้
รายได้โต 10% ตามเป้า
ภาพรวมการเติบโตของรายได้รวมปี 2563 บริษัทยังคงเป้าหมายเติบโต 10% หรือแตะ 3,300 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,062.06ล้านบาท เนื่องจากจะรับรู้งานในมือทีมีความต่อเนื่อง และยังจะมีงานใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมด้วย
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุถึง บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO ว่าปัจจุบัน SEAFCO มีงานในมือ 2,800 ล้านบาท แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคตจากการประมูลโครงการใหม่ๆ หลายโครงการ (ไม่รวมโครงการ PPP ของรัฐ) มีมูลค่ารวมกว่า 5.14 พันล้านบาท
แม้ว่าจะมีการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอ แต่เชื่อว่า SEAFCO จะได้รับงานใหม่ๆ ในมือเพิ่ม และมีเป้ารายได้ที่ 3.3 พันล้านบาท โต 9% นอกจากนี้ โครงการ PPP เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และอู่ตะเภา จะหนุนการดำเนินงานปี2564
ซึ่งในช่วง 4 เดือนเเรก SEAFCO ได้รับงานใหม่มูลค่า 669 ล้านบาท โดยที่ 459 ล้านบาท มาจากไตรมาสที่ 1/2563 และที่เหลือในเดือน เม.ย. 2563 ซึ่งจะหนุนผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2563 ในขณะที่อัตรากำไรเพิ่มขึ้น เทียบจากไตรมาสที่ผ่านมา จากสัดส่วนงานแรงงานที่เพิ่มขึ้น 40% จากงานในมือเทียบกับ 29% ในเดือน ม.ค. โดยรวมแล้วคาดว่า ผลประกอบการจะใกล้เคียงกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นเทียบจากไตรมาสที่ผ่านมา
เราแนะนำให้ "ซื้อ" โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 8.20 บาท อิง PER ที่ 14.30 เท่าสำหรับปี 2563 มีความเสี่ยงคือ การก่อสร้างที่ล่าช้า, โครงการใหม่ที่น้อยกว่าคาด, งานใหม่ที่น้อยกว่าคาด และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม