ทันหุ้น –สู้โควิด –BCH เชื่อไทยเป็น Medical Hub ดึงชาวต่างชาติกลับมา ระบุยื่นขอใบอนุญาตเป็นสถานกักกันในโรงพยาบาลทางเลือก คาดสรุปได้ภายใน 1 สัปดาห์ คาดเพิ่มสัดส่วนคนไข้ต่างชาติทะลุ 10% เล็งตั้งศูนย์สำหรับผู้สูงอายุเกษียณอายุ พร้อมเดินหน้าศูนย์มะเร็ง เชื่อรายได้ปีนี้เติบโตกว่า 10%
ศ.ดร.นพ. เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยว่า สำหรับล่าสุดที่ทางคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) ได้พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเมื่อสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) คลี่คลาย ทั้งในเรื่องของจัดทำแนวทางการรักษาพยาบาลพร้อมเป็นสถานกักกันในโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ารับการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งรวมผู้ติดตาม
โดยแบ่งเป็นสถานกักกันในโรงพยาบาล (Hospital Quarantine) กักกันตัวผู้ป่วยชาวไทยที่เดินทางกลับเข้ามาในไทย และสถานกักกันในโรงพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) สำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติและผู้ติดตาม ต้องมีการนัดหมายไว้ล่วงหน้า ซึ่งทุกโรงพยาบาลจะต้องขอใบอนุญาตส่วนนี้ โดยทาง BCH ได้ยื่นขอใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายใน 1 สัปดาห์
*ผู้ป่วยต่างชาติฟื้น
ปัจจัยดังกล่าวก็จะส่งผลดีต่อโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยได้รับการยอมรับในเรื่องการบริหารจัดการทางด้านการแพทย์ จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าหลังจากสถานการณ์โควิด-19ก็จะมีกลุ่มต่างชาติที่อาจจะต้องการมาใช้ช่วงเวลาเกษียณที่ประเทศไทยมากขึ้น
ขณะที่บริษัทเองก่อนหน้านี้มีแผนที่จะตั้งศูนย์สำหรับผู้สูงอายุที่เกษียณอายุการทำงาน แต่แผนดังกล่าวเป็นแผนในระยะยาว แต่หลังจากสถานการณ์โควิดเบาบาง บริษัทอาจจะมีการทบทวนแผนดังกล่าวเร็วขึ้น คาดว่าจะเป็นช่วงที่สถานการณ์คลี่คลายมากขึ้น หรือราวปลายปี เพื่อรอดูทิศทางตลาดและความต้องการด้วย แต่เชื่อว่าสังคมผู้สูงอายุจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เป็นโอกาสที่ทางโรงพยาบาลจะเข้าไปดำเนินการ ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าในการทำศูนย์มะเร็งด้วย
“ตอนนี้คนไข้ในประเทศก็กลับมาปกติแล้ว และมีเรื่องของ Medical Hub ล่าสุด ก็เป็นเรื่องที่จะส่งเสริมโรงพยาบาลของไทย ตอนนี้ทาง BCH เองก็มีการขอใบอนุญาตเรื่องนี้ คาดว่าจะได้ภายใน 1 สัปดาห์ เพราะเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมอยู่แล้ว ทำให้คาดว่าผู้ป่วยชาวต่างชาติจะทยอยกลับมาเกิน 10%จากก่อนหน้านี้ที่ 5-7% ซึ่งมีโรงพยาบาลที่มีความพร้อมรองรับชาวต่างชาติหลายแห่ง ทั้ง WMC โรงพยาบาลอรัญประเทศเป็นต้น” ศ.ดร.นพ. เฉลิม กล่าว
*ระยะยาวยังเติบโตดี
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าผลประกอบการปีนี้จะทำได้ตามแผนที่ตั้งเป้าเติบโต 10%โดยยังเดินหน้าก่อสร้างโรงพยาบาลตามแผนทั้งโรงพยาบาลเกษมราฎร์ ปราจีนบุรี คาดจะเปิดดำเนินการได้ภายในปีนี้ ส่วนโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่น แนลเวียงจันทน์ คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1/2564จึงมั่นใจว่าระยะยาว BCH ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ๆ รองรับผู้ป่วย ที่ต่อไปประเทศไทยจะเป็น Medical Hub
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุถึง BCH ว่า ประเมินการเติบโตของรายได้ปี 2563 อย่างอนุรักษนิยมที่ 8.8% อยู่ที่ 9,660 ล้านบาท และประเมินกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7%โดยคาดว่ารายได้จะฟื้นตัวในช่วง ครึ่งปีหลัง หลังสถานการณ์ COVID-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมถึงมาตรการผ่อนคลายล็อคดาวน์ช่วยหนุนธุรกิจ โรงพยาบาลปรับตัวตามสถานการณ์ โดยเพิ่มบริการ Home Service ส่งเจ้าหน้าที่ให้บริการถึงบ้าน
อาทิ กายภาพบำบัด ตรวจสุขภาพ ทำแผล ฉีดวัคซีน เป็นต้น รวมถึงบริการส่งยาทางไปรษณีย์ เนื่องจากผู้ป่วยมีความกังวลการติดเชื้อและหลีกเลี่ยง การเดินทางมายังโรงพยาบาล เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ป่วยที่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เราคาดว่าธุรกิจยังเติบโตได้ดีในระยะยาว แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 20.60 บาท
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม