> SET > STARK

07 กรกฎาคม 2020 เวลา 08:15 น.

ปลื้มแผนใหญ่STARK โตกระฉูดเป้าปีนี้2.52บ.

ทันหุ้น-สู้โควิด-โบรกเกอร์ส่องหุ้น STARK ประเมินกำไรในปี 2563-2564 เติบโตก้าวกระโดด ปีนี้ 6 เท่าตัว ชน 1 พันล้านบาท ส่วนปีหน้ากำไรแตะ 1.6 พันล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้หลังเทคยักษ์สายไฟเวียดนาม ได้ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่หนุน มองหุ้นมีโอกาสถูกนำเข้าคำนวณใน SET50 หากฟรีโฟลท เป็นไปตามเกณฑ์ในอนาคต วางเป้า 2.52 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ประเมินหุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ผู้ผลิตสายไฟรายใหญ่ของไทย  มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรในปี 2563 และ 2564 เติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดว่าในปี 2563 มีกำไรอยู่ที่ 926 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 647.4% จากปีก่อน หรือเติบโตกว่า 6 เท่าตัว เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้างธุรกิจเหมือนกับปีก่อน และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ จากการเข้าเทคโอเวอร์  Thinh PhatCables Joint Stock Company หรือ Thipha Cables และ Dong Viet Non-Ferrous Metal And Plastic Joint Stock Company หรือ Dovina  เข้ามา 9 เดือนภายในปีนี้ ทั้งนี้ Thipha Cables และ Dovinaประกอบธุรกิจผลิตสายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล และอุตสาหกรรมโลหะรายใหญ่ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่ง STARK ได้เข้าไปซื้อกิจการเสร็จเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2563


สำหรับบริษัทหลักที่ STARK ถือหุ้น อย่าง บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) ก็มีแผนขยายกลุ่มลูกค้าเชิงรุกทั้งภาครัฐและเอกชน ควบคู่ไปกับการลดต้นทุน


ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส ประเมินด้วยว่า STARK จะมีกำไรปี 2564 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากปีนี้ จากการรับรู้ 2 บริษัทใหม่เต็มปี และการเพิ่มยอดขายสายไฟจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่


โดยปกติผลิตภัณฑ์สายไฟฟ้าและเคเบิ้ลจะเติบโตตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ถึงแม้ในระยะสั้นอาจมีการชะลอตัวบ้างตามเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แต่ในระยะยาวยังเห็นการเติบโตทั้งในไทยและอาเซียน โดยเฉพาะในเวียดนามที่อยู่ในช่วงของการเติบโตสูงของจีดีพี ประมาณ 6-8% ต่อปี ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดย STARKเห็นผลบวกดังกล่าว จึงได้เข้าไปซื้อ Thipha Cables และ Dovina


ขณะที่ PDITLซึ่งทำธุรกิจผลิตและขายสายไฟฟ้าและเคเบิ้ลภายใต้แบรนด์ Phelps Dodge โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงอันดับ 13 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของไทย และยังเป็นบริษัทเดียวในอาเซียนที่ผลิตสายไฟแรงดันสูงพิเศษได้ จึงทำให้มีอัตรากำไรเหนือคู่แข่ง รวมถึงมีความได้เปรียบด้านต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบทองแดงต่ำ จึงทำให้สามารถลดต้นทุนได้ประมาณ 10-15%


@จ่อเข้า SET50


ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ยังระบุอีกว่าหุ้น STARK มีโอกาสที่จะถูกนำเข้าคำนวณใน SET50 ในอนาคต จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม หรือ มาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ในระดับ 5.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากระดับฟรีโฟลท และ Turnoverเข้าเกณฑ์ก็มีสิทธิ์จะถูกนำเข้าคำนวณได้ เพราะที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มสภาพคล่องในตลาดผ่านการทำบิ๊กล็อตให้กับนักลงทุนสถาบันและลูกค้ารายใหญ่ ส่งผลให้ฟรีโฟลทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 11.4% จากเดิมที่ 9.71% ซึ่งยังต่ำกว่าเกณฑ์ของตลาดที่จะต้องมีฟรีโฟลทขั้นต่ำ 15% โดยมองว่าฟรีโฟลทจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง


@เป้า 2.52 บาท


กลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้หาจังหวะเข้าซื้อ จากแนวโน้มกำไรที่เติบโตก้าวกระโดด โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ที่ 2.52 บาทต่อหุ้น ภายใต้สมมติฐานมีโอกาสเติบโตจากการซื้อกิจการ หรือ M&A เพิ่มเติม และต้องไม่มีการเพิ่มทุนจากนี้


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด มองเช่นกันว่า STARK จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะได้แรงหนุนจากการที่เข้าไปซื้อกิจการในประเทศเวียดนามช่วงทีผ่านมา ซึ่งการใช้ไฟฟ้าในเวียดนามมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้มีการขยายโรงไฟฟ้าเพิ่มกำลังการผลิต รวมถึง STARKมีการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าขยายตลาดไปลูกค้ารายย่อยมากขึ้น


โดยประเมินอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิในช่วงปี 2563-2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 16% ต่อปี และ 28% ต่อปี ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีกำไรอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโต 315% จากปีก่อน จากยอดขายของPDITLที่เพิ่มขึ้น 25% ตามที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้ รวมถึงได้รับแรงหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มปีจาก อดิศรสงขลา และรายได้ 9 เดือนของ Thipha Cables และ Dovina โดยจะเริ่มรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2563 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ได้แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายของปี 2564 อยู่ที่ 2.40 บาทต่อหุ้น

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X