ทันหุ้น-สู้โควิด-AJ ปีเพิ่มกำลังผลิตรับปริมาณขายเติบโตขึ้น 2 หลัก ชี้เหตุออเดอร์พุ่ง ถูกสั่งบรรจุหน้ากากอนามัย ชี้ตลาดใน-นอกปีนี้ยอดขายแข็งแกร่ง ฟากโบรกแนะดูยอดใช้ไฟฟ้ากลุ่มแพ็กเกจจิ้งพุ่งดันผลงานไตรมาส 1/63 ขณะที่ไตรมาส 2/63 ก็โดดเด่น
จับตาหุ้นผลิตพลาสติกฟิลม์ บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJ และ บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PTL พุ่งชนซิลลิ่งวานนี้ (7 ก.ค.) โดย AJ ปิดที่ 18.90 บาท เพิ่มขึ้น 14.55% ขณะที่ PTL ปิดที่ 19.60 บาท เพิ่มขึ้น 14.62%หลังถูกประเมินว่าได้รับผลดีจากคำสั่งซื้อ
แหล่งข่าวจาก บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJ เปิดเผยว่า คาดว่าปริมาณขายปีนี้ จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยการเติบโตจะมาจากทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทได้รับอานิสงส์จากการที่ผู้บริโภคหันมาห่วงใยสุขภาพมากขึ้น ทำให้มีการนำแผ่นฟิลม์ไปใช้ในการแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ ชนิดอ่อน เช่น ซองบรรจุอาหารและขนมขบเคี้ยว ซองบรรจุสิ่งของ เช่น ซองใส่หน้ากากอนามัย
ซึ่งขณะนี้หน้ากากอนามัยเป็นที่ต้องการทั่วโลก ส่งผลให้บรรจุภัณฑ์ เป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยในการรักษาความสะอาดด้วย จึงเชื่อว่าปริมาณขายปีนี้จะเติบโตได้ดี แต่ในด้านตัวเลขผลประกอบการอาจจะประเมินยาก เพราะว่าวัตถุดิบของบริษัทอย่างเม็ดพลาสติก ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันด้วย ซึ่งมีความผันผวนสูง จึงไม่สามารถประเมินตัวเลขได้ชัดเจน
บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากการจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศประมาณ 35% และ65% มาจากการจำหน่ายในต่างประเทศ โดยบริษัทมีการส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย ไต้หวัน ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซีย อิตาลี ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซียเม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น โดยส่วนใหญ่เป็นการจัดจําหน่ายผ่านตัวแทน
@เพิ่มกำลังผลิต
แหล่งข่าว ระบุด้วยว่า บริษัทจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศ และเพิ่มสัดส่วนการส่งออก ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและตลาด
โดยบริษัทได้มีการพัฒนาศักยภาพการตลาด การผลิต และช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเพิ่มเครื่องจักรใหม่ทดแทนเครื่องจักรเดิม และการสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่สำหรับการผลิต แผ่นฟิล์ม BOPA (Nylon) ซึ่งทำให้กำลังการผลิตของบริษัทในปีนี้มีความพร้อมอย่างมาก และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปผลิตและลดต้นทุนการผลิตลงด้วย
แต่ทั้งนี้บริษัทได้มีการขอผ่อนผันการแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ออกโดยจะนำส่งภายในวันที่ 14 สิงหาคม2563 เนื่องจากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้โรงงานของบริษัทที่ผลิตสินค้า มีอุปสรรคในการรวบรวมข้อมูลสำหรับการจัดส่งงบการเงิน ในเรื่องของต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญของงบการเงิน ที่ส่งผลกระทบต่องบการเงินอย่างมีนัยสำคัญดังนั้นจึงขอขยายระยะเวลาออกไป
@ โควิดหนุน
ขณะที่ นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์หยวนต้า(ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า AJ เป็นผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจําหน่ายแผนฟิล์ม ทำให้ได้รับอานิสงค์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีโอกาสได้รับออเดอร์แพจเจจิ้งอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องติดตามการรายงานผลประกอบการของ AJ เพราะได้มีการขอผ่อนผันการส่งงบการเงิน ไตรมาส 1/2563 ถ้าหากมีการประกาศผลประกอบการออกมา ก็น่าจะเห็นภาพรวมธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น
แต่หากพิจารณาจากการที่บริษัทโรงไฟฟ้ารายงาน ว่า กลุ่มธุรกิจแพคเกจจิ้งในช่วงไตรมาส 1/2563 มียอดใช้ไฟฟ้าในระดับที่สูง ทำให้ฝ่ายวิจัยมองว่าช่วงต้นปีกำลังการผลิตของ AJ น่าจะอยู่ในระดับที่ดี ดังนั้นแนะนำการลงทุนในช่วงสั้นแนวต้านอยู่ที่ 20 บาท ให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาด้วย ส่วนระยะยาวยังต้องจับตาผลประกอบการต่อไป แต่ทั้งนี้ขณะนี้ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้มีการจัดทำบทวิเคราะห์
*ลุ้นงบQ2
ส่วนบริษัท หลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ว่า AJซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่มแพจเกจจิ้ง ซึ่งเป็น Theme การลงทุนที่น่าสใจ ซึ่งคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 น่าจะออกมาดีเป็นหุ้นปลอดภัย (defensive) ที่น่าลงทุนมากขึ้น ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการระบาดเพราะการลงทุนในช่วงนี้ต้องมีการลงทุนอย่างระมัดระวัง และเลือกกลุ่มลงทุนที่น่าสนใจ
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม