ทันหุ้น-สู้โควิด- BCP แตกไลน์ปั้นสตาร์ทอัพ "Winnonie" ธุรกิจให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า วันละ 150 บาท เน้นกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง ตั้งเป้าแชร์ 10% ของวินทั้งหมดแสนคัน ปรับแผนเลื่อนยื่นไฟลิ่ง BBGI เข้าตลาดเป็นช่วง Q4/2563 เหตุผลกระทบโควิด 19

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนงานการนำ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ รวมถึงเอทานอล ไบโอดีเซล เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเลื่อนยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จากกำหนดเดิมไตรมาส3/2563 เป็นช่วงไตรมาส 4/2563 เนื่องจากได้รับปัจจัยจากประเด็นของโควิด-19 กดดัน ซึ่งคาดว่าทางก.ล.ต.จะใช้เวลาในการพิจารณาไฟลิ่งราว 4-5 เดือน และน่าเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในปี 2564

ปรับแผนธุรกิจ

นายชัยวัฒน์ ระบุว่า ที่ผ่านมา BCP ได้มีปรับลดงบลงทุนปี 2563 จากเดิมที่วางไว้ราว 2.98 หมื่นล้านบาท เหลือราว 2.28 หมื่นล้านบาท เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและบริหารจัดการต้นทุนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยงบดังกล่าวแบ่งเป็น เงินลงทุนธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในภายใต้การดำเนินงาน บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ราว 1 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการปรับปรุงโรงกลั่นและการขยายสถานีบริการน้ำมันจำนวน 55 แห่งในปีนี้ (เดิมมีแผนเปิดทั้งหมด 60 แห่ง) ตลอดจนในรองรับการดำเนินธุรกิจในส่วนต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

แตกไลน์ธุรกิจใหม่

ล่าสุดทาง BCP ได้เปิดตัว “Winnonie” สตาร์ทอัพภายใน "กลุ่มบางจาก" ที่นำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ นำร่องพื้นที่รอบสำนักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก เพื่อขยายไลน์ธุรกิจและช่องทางสร้างรายได้ในระยะยาว

สำหรับสตาร์ทอัพดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กร “The Intrapreneur - ปั้นคนในให้เป็นเถ้าแก่” โดยกลุ่มพนักงานที่เป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้ ได้ทำการศึกษาการประกอบอาชีพและการใช้ชีวิตของผู้ประกอบการรถวินมอเตอร์ไซค์ พบว่ามีค่าใช้จ่ายสูงมาก กว่า 60% เป็นค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถและเชื้อเพลิง (น้ำมัน)

ดังนั้นรูปแบบ “Winnonie” จึงเป็นการให้เช่ารถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า ที่ได้รับป้ายทะเบียนเป็นสีเหลือง (ใช้ขนส่งสาธารณะได้ถูกต้องตามกฎหมาย) โดยมีอัตราเช่าอยู่ที่ 150 บาทต่อวัน (รวมค่าใช้จ่ายในการสลับแบตเตอร์รี่เพื่อเติมพลังงานได้ 1 ครั้งต่อวัน จากปกติแบตเตอร์รี่ 1 ลูกวิ่งได้ระยะทาง 60 กิโลเมตรต่อการชาร์ทเต็ม 100%) ซึ่งตั้งเป้าภายใน 3 เดือนนี้จะทดลองให้บริการจำนวน 10 คัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3-4 คัน (เริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา) และมีเงินลงทุนเฉลี่ย 4-5 หมื่นบาทต่อคัน รวมทั้งในระยะยาวตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ราว 10% ของจักรยานยนต์รับจ้างในกรุงเทพฯ ทั้งหมดประมาณ 1 แสนคัน

ซึ่งจากการศึกษาพบว่าการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการใช้น้ำมันประมาณ 10 เท่า พร้อมการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ swapping เป็นรายแรกในประเทศไทย โดยสามารถนำแบตเตอรี่ไปเปลี่ยนได้ที่ตู้สำหรับแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก

นอกจากนี้ ภายหลังจากช่วงการศึกษาข้อมูลใน 3 เดือนข้างต้น จะมีผู้ร่วมโครงการในเบื้องต้นได้แก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และธนาคารเกียรตินาคิน และจะขยายเครือข่ายไปยังผู้ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ในอนาคต โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง