นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อทั้งแนวโน้มอุตสาหกรรมและภาพธุรกิจหลักของ บริษัท เชื่อว่าแพล็ตฟอร์มในปัจจุบันจะสามารถหนุนอัตราการเติบโตของกำไรได้ระดับ 20% ต่อปี ในขณะที่นวัตกรรมจะเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งการเติบโตของกำไรให้สูงมากกว่า 20% โดยมีประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจดังนี้

ธุรกิจของ NETBAY ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ B2Gเท่านั้น หากลูกค้าของ NETBAY ที่ใช้บริการแพลตฟอร์มของกรศุลกากรมีการใช้งานบริการอื่นๆเพื่อเชื่อมต่อระหว่างบริษัทใน ecosystem เดียวกันด้วย เช่น ผู้นาเข้า/ส่งออก, ตัวแทนผู้นำเข้า/ส่งออกสินค้า, นายหน้าศุลกากร, ผู้ให้บริการเครือข่าย value-added (VANS),ตัวแทนขนส่งทางเรือ, บริษัทประกัน, ธนาคาร, ท่าเรือ และผู้ให้บริการขนส่งและเมื่อหากบริษัท A ใช้บริการแพลตฟอร์มของ NETBAY บริษัท B ซึ่งเป็นลูกค้าหรือซัพพลายเออร์ของบริษัท Aก็จะมีแนวโน้มมาใช้บริการแพลตฟอร์มของNETBAY ด้วยเช่นกัน

มากกว่าแค่แพลตฟอร์ม e-documentเมื่อปีที่ผ่านมาก่อตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ Fynnet Ventures ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเชื่อมต่อทางการค้าที่ใช้แพลตฟอร์ม blockchain นอกจากนี้ในไตรมาส2/63 NETBAYยังได้พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ “HAPYBot” ซึ่งได้บริจา คให้แก่ 3โรงพยาบาล HAPYBotสามารถจัดส่งอาหารและยาให้แก่ผู้ป่วย และสามารถสื่อสารกับบุคลากรทางการแพทย์, ช่วยเหลือแพทย์และพยาบาลเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทได้กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ด้านการขนส่ง/การแพทย์ สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ ดังนั้นเราเห็นโอกาสอีกมากสาหรับ NETBAY ที่จะเติบโตในอนาคต สำหรับ e-taxและ e-receipts บริษัทเป็นผู้ให้บริการมาตั้งแต่เดือนมี.ค.