> เคาะไปคุยไป > BAM

21 กรกฎาคม 2020 เวลา 06:40 น.

เคาะ BAM

BAM รายงานกำไรสุทธิ 1Q63 ที่ 699 ล้านบาท ลดลง 78.5%YoY จากฐานที่สูงใน 1Q62 ที่มีการชำระหนี้ NPL ของลูกหนี้รายใหญ่ ทั้งนี้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท (+392.3%QoQ, -27.9%YoY)จากส่วนของเงินให้สินเชื่อซื้อลูกหนี้ค้างรับ 1.24 พันล้านบาท ตาม TFRS9 ส่วนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากกู้เงินเพื่อขยายฐานสินทรัพย์ ด้านกำไรจากการขาย NPA ลดลง 26.4%YoY อยู่ที่ 226 ล้านบาท โดยภาพรวมการขายหลักประกันชะลอตัวลงตามภาคอสังหาริมทรัพย์และสภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีการบันทึก ECL 1.3 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งเผื่อในส่วนของรายได้สินเชื่อค้างรับที่ยัง unrealized (ตั้งสำรอง 100%) ด้านค่าใช้จ่ายภาษีไตรมาสนี้อยู่ที่ 63 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่ 2.5 แสนบาท อย่างไรก็ดีผลประโยชน์ทางด้านภาษีมูลค่า 5.87 พันล้านบาท ยังคงเท่าเดิมจากสิ้นปี 62


แนวโน้มผลประกอบการใน 2Q63 คาดว่าอ่อนตัวลงต่อเนื่อง QoQ โดยได้รับผลกระทบจากการ Lock down ประเทศทำให้กรมบังคับคดีถูกปิดทำการ ส่งผลให้ BAM ไม่สามารถนำสินทรัพย์มาประมูลได้ กระทบต่อเงินสดรับจาก NPL เพราะไม่สามารถขาย NPA ได้เพราะในช่วงที่ผ่านมาผู้ซื้อมีแนวโน้มชะลอการซื้อออกไป ทั้งนี้เริ่มเห็นผลกระทบจากโควิด-19 ที่ชัดเจนจาก Cash collection ที่ลดลงเป็นผลกระทบจากนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้ โดยCash collectionในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (คาด Base Case ลดลง 15-20%)


แผนการในครึ่งปีหลัง BAM คาดว่ากรมบังคับคดีจะสามารถกลับมาดำเนินการได้ในช่วงเดือนมิถุนายน มองว่าผลกระทบจากที่ปิดทำการไปมีไม่มากเนื่องจากมี NPA ในมืออยู่เพียงพอ และดำเนินการขายผ่านทางเว็บไซต์ ปัจจุบันมีสินทรัพย์ขึ้นขายบนเว็บไซต์มากกว่า 800 รายการ อีกทั้งในแง่ของลูกหนี้ NPL ที่เลื่อนการชำระหนี้ออกไปมองว่าเป็นส่วนน้อยเนื่องจากในเดือนเมษายนที่ผ่านมามีลูกหนี้เลื่อนชำระออกไปเพียง 500 รายจากทั้งหมด 7,000 ราย มั่นใจว่าลูกหนี้จะไม่ทิ้งการชำระเนื่องจากสินทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกันคือบ้านที่อยู่อาศัย คาดสามารถเร่งการเก็บ Cash collection ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ดียังคงต้องติดตามผลในช่วง 3 เดือนหลังจากนี้ว่าจะมีผลกระทบใดเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนการซื้อสินทรัพย์เข้ามาบริหารเพิ่มยังคงเป้าไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาทและมองว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นโอกาสในการเลือกซื้อสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีในราคาที่ถูกกว่าปกติ โดยมีวงเงินรองรับอยู่ 7-8 พันล้านบาท และยังมี Room ที่สามารถกู้ได้อีก โดยจะบริหารอัตราส่วน D/E ไว้ไม่ให้เกิน 2.5 เท่า


แนะนำ “เคาะ” ครับ ด้านปัจจัยเทคนิคปรับตัวลงสร้างจุดต่ำหรือฐานแนวรับ 23.40 พร้อมกลับตัวขึ้นผ่านยืนSMA 24.20-24.00 ขึ้นมาด้วยแท่งเทียนสีขาวยาวเป็นสัญญาณซื้อแท่งเทียน ระหว่างวันปรับทดสอบเน้นยืนบริเวณ SMA มั่นคงเป็นสัญญาณบวกการเปลี่ยน Trend แนวต้านจุดทดสอบ 24.60/25.75 ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำผ่านยืน


คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่มเมื่อยืนเหนือ 24.20 ได้มั่นคงเป็น Buy

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 24.20/24.00 ไม่ควรต่ำกว่า

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X